BMW พัฒนาโปรเจ็ค i มุ่งเน้นขับขี่อัตโนมัติหรือไร้คนขับ

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

ล่าสุดยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องกับ Project i 2.0 และ iNext สำหรับการขับขี่อัตโนมัติหรือไร้คนขับ ชาวไอทีเมามันส์หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเจ้ารถที่ได้คนขับไม่ได้มีเพียงแค่ของ Google เท่านั้น และที่เป็นอีกหนึ่งเจ้าที่พัฒนารถยนต์ระบบพรีเมี่ยมที่ขับขี้ได้ด้วยตัวของมันเองภายใต้แบรนด์ BMW นั้นเอง

เมื่อ BMW พูดเกี่ยวกับความต้องการสร้างรถที่แสนชาญฉลาด และได้ผุดโครงการเป็น  Project i 2.0 ความคิดริเริ่มที่จผลักดันเทคโนโลยีการขับขี่ด้วยตนเองหรือทำงานอัตโมมัติโดยไม่ต้องมีมนุษย์อย่างเราๆไปนั่งขับ โดยพลังงานหลักในการขับเคลื่อนจะเป็นไฟฟ้า และตั้งชื่อให้กำระบบที่เป็นหัวใจสำคัญคือ iNext ที่จะคาดคะเน กำหนดมาตรฐาน เชื่อต่อเทคโนโลยี EV และทำงานกับระบบแผนที่และเซ็นเซอร์

BMW i8 2018 concept

สำหรับระบบ iNext นั้นตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆจนกว่าจะถึงช่วงต้นปี 2020 ตามกำหนดโครงการนี้ โดยแผนการพัฒนาจะอัพเกรดด้วยรถรุ่น i3 ที่มีอยู่ (อาจจะใช้แบ็ตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น) และอาจจะเป็น i8 ในปี 2018 หรืออาจจะใช้ปลั๊ก hybrid ของรถ Mini ซึ่งยังไม่ได้ระบุความชัดเจนมากนักจากแหล่งข่าว แต่ในระยะสั่นนี้ BMW พยามที่จะงัดเทคโนโลยีอนาคตมาสู้รบทางการตลาด แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าแรกแต่ BMW ก็อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มายาวนาน ผมคนหนึ่งที่ชอบรถค่ายนี้ครับ แล้วชาวไอทีเมามันส์ท่านไหนติดตามแบบผมบ้าง..

Reference

  • BMW’s next-gen Project i focuses on autonomous driving at engadget

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This