TikTok เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ทำเอาหลายคนอึ้ง เมื่อมีข่าวออกมาว่าบริษัทมีแผนจะ “บังคับ” ผู้ใช้วัยรุ่นให้นั่งสมาธิหลัง 4 ทุ่ม! ฟังดูเหมือนล้อเล่น แต่เรื่องนี้จริงจังมาก และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการดูแลสุขภาพจิตของเยาวชนที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ในช่วงเวลากลางคืน
โดยตามรายงานจาก Engadget ฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า “mindful cooldown” ซึ่งจะเริ่มแสดงขึ้นเมื่อถึงเวลา 4 ทุ่ม โดยเฉพาะกับผู้ใช้งานที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หากยังคงใช้งานแอปอยู่ TikTok จะแสดงคลิปแนวผ่อนคลาย เช่น เสียงธรรมชาติ ภาพสวย ๆ และแบบฝึกหัดสมาธิสั้น ๆ ที่ชวนให้หยุดพักและสงบจิตใจ
ฟังดูน่าสนใจใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้วมีเบื้องลึกที่น่าสนใจกว่านั้นอีก
ทำไม TikTok ถึงต้องทำแบบนี้?
เนื่องจาก TikTok ถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้งานวัยรุ่นในช่วงหลัง โดยเฉพาะการนอนไม่พอ การเสพคอนเทนต์ต่อเนื่องแบบ “doom scrolling” ซึ่งส่งผลเสียทั้งทางร่างกายและจิตใจ TikTok จึงต้องการ “สร้างพฤติกรรมใหม่” ด้วยการใช้การแจ้งเตือนในเชิงบวกให้ผู้ใช้งานหยุดพักจากโลกโซเชียลบ้าง
การเพิ่มฟีเจอร์แนว “ดิจิทัลเวลบีอิ้ง (Digital Wellbeing)” แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเทคโนโลยี เพราะแอปอื่น ๆ อย่าง Instagram และ YouTube ก็เริ่มมีระบบแจ้งเตือนให้พักหน้าจอเช่นกัน แต่ TikTok พิเศษกว่าตรงที่ ใส่ความจริงจังและความขำขันไปพร้อมกัน
แล้ววัยรุ่นจะยอมทำตามไหม?
ต้องบอกว่า TikTok “ไม่ได้บังคับจริง ๆ” เพราะผู้ใช้งานสามารถเลือกปิดฟีเจอร์นี้ได้ในเมนูการตั้งค่า แต่ด้วยการออกแบบที่น่าสนใจ เช่น ใช้เสียง AI พูดเชิญชวนให้ผ่อนคลาย หรือภาพธรรมชาติที่เหมือนหลุดออกจากแอป Calm ทำให้หลายคนอาจจะลองดูสักครั้ง
มีคนแซวกันใน X (Twitter เดิม) ว่า “นี่มันแอป TikTok หรือแอปสอนสติ?” บางคนก็บอกว่า “ก็ดีนะ อย่างน้อยก่อนนอนจะได้ไม่เจอแต่คลิปดราม่า”
ความเสี่ยงของการใช้โซเชียลก่อนนอน
นักวิจัยหลายสถาบันทั่วโลกเคยออกมาเตือนว่าการใช้มือถือก่อนนอนส่งผลต่อคุณภาพการนอนโดยตรง โดยเฉพาะแสงสีฟ้าที่รบกวนสมองไม่ให้ผ่อนคลาย อีกทั้งเนื้อหาที่เข้มข้นเกินไปยังทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะในวัยรุ่นที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนาการของสมอง การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นเรื่องสำคัญ TikTok จึงหวังว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ “หยุดพัก” จากหน้าจอ และหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น
นี่คือการ “ดูแล” หรือ “ควบคุม”?
ประเด็นนี้ก็มีเสียงวิจารณ์เหมือนกัน บางคนมองว่า TikTok เริ่มก้าวก่ายเสรีภาพของผู้ใช้งานมากเกินไป แต่อีกฝ่ายกลับเห็นว่ามันเป็น “soft push” หรือการผลักดันในทางอ้อมที่ตั้งใจดี
เพราะสุดท้ายแล้วการจะพักหรือไม่พักอยู่ที่ผู้ใช้เป็นคนเลือกเอง TikTok แค่ช่วยเตือนให้เรานึกถึงตัวเองบ้าง
สรุป
ฟีเจอร์ “mindful cooldown” ของ TikTok อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่แพลตฟอร์มโซเชียลไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพจิตแบบแนบเนียน ซึ่งในอนาคตเราอาจได้เห็นแอปอื่น ๆ ทำตามบ้างก็ได้
ส่วนจะได้ผลหรือไม่ ก็ต้องรอดูว่า “วัยรุ่นสายโต้รุ่ง” จะยอมวางมือถือแล้วนั่งสมาธิกับ TikTok หรือจะกดข้ามไปดูคลิปแมวต่อเหมือนเดิม? 😄