ลืออุ ปกรณ์แท็บเล็ตชื่อดังอย่าง iPad 3 เตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมนี้ คาดจะมาพร้อมหน้าจอที่ละเอียดขึ้น หน่วยประมวลผลที่เร็วกว่า และรองรับเครือข่ายข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงกว่านั่นคือการรองรับเทคโลยี 4G LTE (Long Term Evolution) เบื้องต้นพบ iPad 3 จะเปิดสายการผลิตเต็มขั้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ บลูมเบิร์ก สำนักข่าวชื่อดังฝั่งอเมริการายงานข่าวเกี่ยวกับอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง iPad โดยอ้างแหล่งข่าวนิรนามว่า เดือนมีนาคมจะเป็นช่วงเวลาที่แอปเปิลเตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของ บริษัท โดยระบุว่าเดือนมีนาคมเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เคยเปิดตัว iPad และ iPad 2 ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะรักษารอบเวลาในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ใกล้เคียงกับ ปีที่ผ่านมา ความคืบหน้าเรื่องกำหนดการเปิดตัวและรายละเอียดการปรับปรุงคุณสมบัติ เครื่อง iPad รุ่นใหม่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นนั้นถูกรายงานโดยบลูมเบิร์ก ซึ่งอ้างอิงจากแหล่งข่าวในวงการบริษัทผู้รับผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์แท็บเล็ตของ แอปเปิลในเอเชีย ในรายงานของบลูมเบิร์กชี้ว่าหน่วย ประมวลผลที่จะถูกใช้ใน iPad 3 นั้นเป็นหน่วยประมวลผลแบบ 4 คอร์ประมวลผล (ควอด-คอร์) แต่ไม่มีการระบุอย่างแน่ชัดว่าจะเป็นซีพียู A5 รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือจะข้ามขั้นไปเป็นรุ่น A6 ไปเลย ทั้งนี้ รายงานยังได้ระบุอีกว่าในส่วนของ iPad 3 จะมาพร้อมกับเทคโลยี 4G LTE (Long Term Evolution) ที่ขณะนี้เริ่มมีการทดสอบเครือข่ายอย่างเป็นทางการบ้างแล้วในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งในงาน CES 2012 (International Consumer Electronics Show) ยังได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี LTE เป็นจำนวนมากมายหลายรุ่น ทำให้เชื่อกันว่าแอปเปิลเองก็คงเป็นอีกบริษัทที่ซุ่มเงียบ รอเปิดตัวอุปกรณ์ LTE ของตัวเองใน iPad 3 นี้เลย เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้าคู่แข่งค่ายอื่นๆ ในส่วนของหน้าจอประมวลผลแม้จะไม่มี การยืนยัน แต่เชื่อว่าความละเอียดของหน้าจอ iPad รุ่นใหม่จะมีความละเอียดและคมชัดขึ้นแน่นอน ซึ่งนั่นก็มีทางเป็นไปได้ว่าใน iPad 3 อาจจะมีการรองรับหน้าจอแบบ HD (High-Definition) แต่ในอีกกระแสข่าวหนึ่งได้รายงานว่าหน้าจอของ iPad 3 จะมีการเพิ่มความละเอียดขึ้นกว่าเดิมเป็น 2 เท่า ของ iPad 2 ซึ่งมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 768 x 1024 อาจทำให้แอปเปิลผลิต iPad 3 โดยให้ความละเอียดหน้าจอสูงถึง 1536 x 2048 พิกเซล นอกจากนี้ แหล่งข่าวของบลูมเบิร์กยังให้ข้อมูลว่ากระบวนการผลิต iPad 3 จะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2012 ก่อนจะเข้าสู่ช่วงการเปิดสายการผลิตเต็มขั้นแบบ 24 ชั่วโมงในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมพร้อมส่งมอบให้กับแอปเปิล สโตร์ และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรร่วมกับแอปเปิลในช่วงเดือนมีนาคม **ดีไซน์ iPad 3 ไม่ต่างจาก iPad 2 โดยปกติแล้วแอปเปิลไม่เคยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน CES มาก่อน แต่ Jeremy Horwitz บรรณาธิการของเว็บไซต์ iLounge.com อ้างว่าได้ มีโอกาสสัมผัส iPad 3 ด้วยตัวเองในงานนี้ โดย Horwitz คาดว่า iPad 3 ที่ได้เห็นนั้นมีความหนาเครื่องจากเดิมเล็กน้อย (ประเมินไว้เพียง 1 มิลลิเมตร) ซึ่งมีลักษณะภายนอกแทบจะไม่มีความแตกต่างจาก iPad 2 รุ่นดั้งเดิม Horwitz วิเคราะห์ว่าเคสหรือปลอกกันรอยของ iPad รุ่นก่อนๆ สามารถใช้ใน iPad รุ่นใหม่ได้สบาย แต่ปลอกที่ทำมาเฉพาะเจาะจงตรงตามสัดส่วนจะไม่สามารถใส่ด้วยกันได้ คาดว่าส่วนประกอบอื่นๆ อย่างกล้องหลังจะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย โดยกล้องหลังจะมีลักษณะเหมือนวงแหวนสีเงิน คุณภาพของกล้องหลังจะเป็นกล้องคุณภาพเดียวกันกับ iPhone 4S อย่างไรก็ตามดีไซน์อื่นๆ จะยังคงรูปลักษณ์และการจัดวางตำแหน่งยังคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Home ปุ่มปรับเพิ่ม/ลดเสียง ช่องเสียบหูฟัง รวมไปถึงด็อค คอนเน็คเตอร์ต่างๆ ถึงกระนั้น Horwitz ลงความเห็นว่าอุปกรณ์ iPad ตัวใหม่ที่เขาได้จับในงาน CES 2012 นั้นเป็นอุปกรณ์เก่าที่มีการผลิตล่วงหน้ามาก่อนแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่งปีก่อน ซึ่ง Horwitz ลงความเห็นว่า iPad รุ่นที่วางจำหน่ายจริงน่าจะมีความแตกต่างจากรุ่นที่ได้สัมผัสมาไม่มากก็น้อย **สื่อกิมจิบอกชาร์ปไม่ได้เป็นผู้ผลิตหน้าจอ iPad 3 นอกจากนี้แล้วสื่อแดนเกาหลีใต้อย่าง Electronics Times ยังได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่าจากเดิมที่มีการคาดหมายกันว่า iPad รุ่นถัดไปแอปเปิลจะให้ชาร์ปเป็นผู้ผลิตหน้าจอแสดงผล แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อมีการระบุว่าชาร์ปไม่สามารถผลิตหน้าจอแสดงผลให้ตรงกับความต้องการของแอ ปเปิลได้ ทำให้ตอนนี้จะเหลือเพียงแค่ แอลจีและซัมซุงเท่านั้น ในรายงานเดียวกันนี้รายงานว่าแอปเปิล ได้สั่งหน้าจอจำนวน 65 ล้านจอภายในปี 2012 โดย 5 ล้านจอแรกจะมาจากการผลิตของโรงงาน Foxconn และ Pegatron สำหรับสาเหตุที่ชาร์ปไม่สามารถผลิตหน้าจอความละเอียดตามที่แอปเปิล ต้องการได้ อาจจะเป็นเพราะว่าความละเอียดที่แอปเปิลต้องการนั้นอาจจะต้องการความละเอียด จอสูงถึง 1536 x 2048 พิกเซล ทำให้ชาร์ปที่เป็นตัวแทนผู้ผลิตอาจจะไม่สามารถผลิตให้ได้ตามที่แอปเปิลต้อง การนั่นเอง Company Related Link : Apple
Must Read
