หลังจากมีกระแส จากหลายๆฝ่าย โจมตี รัฐบาล และศบค.ว่า เอาเปรียบประชาชน ที่มีการแถลงข่าวว่า
มีการยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค เน้นย้ำว่าประชาชนต้องมีแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือเพื่อติดตามตัว เดิมใช้ “ไทยชนะ” อยู่ แต่หลังจากนี้ต้องมีการติดตั้งแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ด้วย โดยให้ประชาชนติดตั้งแอปฯ “หมอชนะ” ควบคู่การใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก เห็นว่าต่อไปนี้หากพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด ไม่มีการติดตั้งแอปฯ “หมอชนะ” จะถือว่าละเมิดกฎหมายตามข้อกำหนดนี้ เพราะมีหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยได้ ดังนั้นแอปฯ “หมอชนะ” จะเป็นคำตอบของการระบาดในระลอกนี้
ล่าสุดทางรัฐบาลและศบค ได้กลับลำ ชี้แจงใหม่ในกรณีนี้ว่า ไม่โหลด ‘หมอชนะ’ ไม่ติดคุก
โดย นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงระหว่างการประชุมทำความเข้าใจระหว่าง ศบค.กับองค์กรสื่อและสื่อมวลชนทุกสำนัก ประเด็นหากไม่โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 5 จังหวัดแล้วจะติดคุกนั้น ว่าไม่ขนาดนั้น เพราะเจตนาที่แท้จริงเป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ใช้แอปพลิเคชันในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนหากประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่สามารถโหลดแอปพลิเคชันหมอชนะได้นั้น ก็สามารถใช้กระบวนการแบบแอปพลิเคชันไทยชนะได้ ในการจดบันทึกของตนเองด้วยมือได้ ยืนยันที่แถลง ศบค.ในวันเดียวกันนี้ในเรื่องดังกล่าวเป็นการอ่านตามเอกสาร แต่ความจริงไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เพราะต้องการเพียงความร่วมมือกับประชาชนเท่านั้น
ซึ่งผู้เขียนคิดว่า ความจริงก็ควรเป็นแบบนี้ เพราะคนไทยทุกคนไม่ได้มี Smart phone และผู้สูงอายุบางคนอาจได้ เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถ้ามีการดำเนินคดีทางกฎหมาย กับประชาชนที่ไม่มี
แอพหมอชนะ ก็อาจมีการใช้กฎหมาย เพื่อที่จะหาช่องทาง ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
ตอนนี้รัฐบาลควรจะดำเนินการ รณรงค์ให้ประชาชน ร่วมมือกันป้องกันโรคโควิด กับควรรีบจัดหาวัคซีน ที่มีคุณภาพมาช่วยเหลือประชาชนในประเทศจะดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.thaipost.net/main/detail/89140