นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า สามารถคอร์ปกำลังรอยื่นเรื่องขอใบอนุญาตผู้ให้บริการโครงข่าย (เน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์) ในส่วนกิจการดิจิตอลทีวี ซึ่งทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเปิดให้ขอใบอนุญาตในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้สถานีโทรทัศน์ที่สนใจสามารถมาเช่าเน็ตเวิร์กในการเผยแพร่ภาพในระบบดิจิตอลได้ “เบื้องต้นคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในส่วนนี้ราว 1,000 ล้านบาท ในด้านของการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณภาพ และวางเครือข่ายในการให้บริการ ซึ่งในช่วงแรกจะใช้วิธีการส่งสัญญาณภาพผ่านทางดาวเทียมก่อน หลังจากนั้นค่อยขยายไปสู่การให้บริการบนเคเบิลใยแก้วต่อไป” โดยปัจจุบันมีแนวโน้มว่าช่องฟรีทีวีจะสนใจมาเช่าใช้บริการดังกล่าว เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำให้ต้นทุนในการกระจายภาพในรูปแบบทีวีดิจิตอลลดลง ในขณะเดียวกันสามารถคอร์ปก็จะใช้วิธีเช่าเสาส่งสัญญาณของฟรีทีวีช่องต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้เพื่อมาติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดต้นทุนเช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกัน และจากการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล เชื่อว่าจะทำให้ตลาดในส่วนของกล่องรับสัญญาณดาวเทียมน่าจะมีการขยายตัวสูงขึ้น รวมถึงโอกาสในการเข้าร่วมเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ร่วมกับพาร์ตเนอร์รายอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน “ผมคุยกับฟรีทีวีบางช่องแล้ว เขาสนใจที่จะมาเช่าใช้บริการแทนที่จะลงทุนเอง ซึ่งเน็ตเวิร์กของเราจะสามารถให้บริการได้ทั้งฟรีทีวีและเพย์ทีวี” นอกจากการลงทุนด้านดิจิตอลทีวีแล้ว กลุ่มสามารถยังมองไปถึงการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 เพื่อให้ได้สิทธิในการให้บริการโครงข่ายในการลงทุนทางด้านบรอดแบนด์เพิ่มเติมร่วมกับพันธมิตรอย่างทีโอที และนำมาบันเดิลบริการให้ลูกค้า I-Mobile 3GX สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน “ปัจจุบันการให้บริการ MVNO 3G ของทีโอทีผ่านแบรนด์ I-Mobile 3GX มีลูกค้าที่ใช้งานในระบบอย่างต่อเนื่องราว 1 แสนราย จากลูกค้าทั้งหมด 2 แสนกว่าราย ซึ่งขณะนี้เราเตรียมทีมงานพร้อมทำการตลาดอย่างเต็มที่ สำหรับการรีลอนช์ใหม่อีกครั้ง ส่วนกรณีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดทีโอทีเชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อสัญญา MVNO เนื่องจากได้รับการอนุมัติแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการเซ็นสัญญาเท่านั้น และที่ผ่านมา I-Mobile 3GX ถือว่ามีฐานลูกค้ามากที่สุดในระบบ 3G ทีโอที”
Must Read
