Micosoft ส่งเด็กใหม่ Xbox Music ลองตลาดแทน Zune ที่ไม่ยอมดังซักที!

จอร์รี จอห์นสัน (Jerry Johnson) ผู้จัดการทั่วไปบริการเอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิก ให้สัมภาษณ์ว่า แผนให้บริการเพลงดิจิตอลบนสินค้าสายพันธุ์วินโดวส์นั้นเกิดขึ้นเพราะไมโครซอฟท์เชื่อมั่นว่าเพลงคือส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่าง บริการเอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิกจะแข่งขันโดยตรงกับบริการเพลงของอเมซอน และแอปเปิล รวมถึงบริการสตรีมมิ่งเพลงรายอื่นๆ อย่างสปอติฟาย (Spotify) และแพนโดรา (Pandora) โดยบริการเพลงพันธุ์ใหม่จากไมโครซอฟท์จะถูกขยายไปให้บริการบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ซึ่งมีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ก่อนจะขยายไปยังสมาร์ทโฟนในช่วงหลังจากนั้น จุดนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าแท็บเล็ตที่ไมโครซอฟท์ลงมือพัฒนาเองอย่างเซอร์เฟซ (Surface) ก็จะให้บริการเอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิกด้วย ในระยะแรก ไมโครซอฟท์จะให้บริการเพลงบนเอ็กซ์บ็อกซ์ เครื่องเกมของไมโครซอฟท์ที่มียอดจำหน่ายมากกว่า 67 ล้านเครื่องนับตั้งแต่ปี 2005 โดยจะเติมเต็มบริการด้านความบันเทิงอื่นๆ ที่ไมโครซอฟท์จับมือกับพันธมิตรและให้บริการบนเอ็กซ์บ็อกซ์ในขณะนี้อย่างเน็ตฟลิกซ์ (Netflix), อีเอสพีเอ็น (ESPN) และช่องสถานีต่างๆ ในสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากเพลง ไมโครซอฟท์ยังมีแผนให้บริการคอนเทนต์วิดีโอบนเครื่องเกมเอ็กซ์บ็อกซ์ด้วย ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลว่าการสำรวจผู้ใช้เครื่องเกมเอ็กซ์บ็อกซ์เมื่อ 18 เดือนที่แล้วพบว่ากลุ่มตัวอย่าง 50-60% ใช้เวลาบนบริการด้านความบันเทิงมากกว่าการเล่นเกม สถิตินี้จึงทำให้ไมโครซอฟท์ตัดสินใจสร้างบริการเอ็กซ์บ็อกซ์ขึ้นมาเพื่อให้บริการแทนบริการซูน ซึ่งไม่สามารถแข่งขันกับไอจูนส์หรือผู้ให้บริการเพลงออนไลน์รายอื่น สำหรับเอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิก ไมโครซอฟท์จะเปิดให้ผู้บริโภคได้ฟังเพลงสตรีมมิง (ระบบดาวน์โหลดเพลงที่ฟังได้ระหว่างดาวน์โหลด) โดยผู้ใช้สามารถเลือกว่าจะใช้บริการฟรีแต่มีโฆษณา หรือจะเสียค่าบริการสมาชิก 9.99 เหรียญต่อเดือนเพื่อฟังแบบไม่จำกัดและไร้โฆษณา รายงานระบุว่าเอ็กซ์บ็อกมิวสิกจะประกอบด้วยเพลงมากกว่า 30 ล้านเพลง ถือเป็นสถิติที่มากกว่ารายการเพลงในร้านไอจูนส์ ซึ่งให้บริการเพลงราว 26 ล้านเพลงเท่านั้น โดยในเอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิกจะให้บริการมิวสิกวิดีโอมากกว่า 70,000 วิดีโอ ซึ่งจะสามารถเรียกชมได้ผ่านเครื่องเกมเอ็กซ์บ็อกเท่านั้น บริการเพลงของไมโครซอฟท์จะใช้พื้นที่เก็บเพลงเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติง ซึ่งเป็นคุณสมบัติเดียวกับไอจูนส์และอเมซอนคลาวด์เพลเยอร์ โดยเบื้องต้น เอ็กซ์บ็อกซ์มิวสิกจะพร้อมให้บริการใน 22 ประเทศ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อประเทศในขณะนี้ คาดว่าบริการเพลงของไมโครซอฟท์จะพร้อมรองรับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิล และแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิลได้ในปีหน้า ปัจจุบัน แอปเปิลคือแชมป์ในตลาดจำหน่ายเพลงดิจิตอลรายใหญ่ในสหรัฐฯ โดยไตรมาส 2 ปี 2012 ที่ผ่านมา การสำรวจพบว่าแอปเปิลสามารถครองส่วนแบ่งตลาดขายเพลงดิจิตอล 64% โดยเมื่อเทียบในอุตสาหกรรมเพลง ยอดขายของแอปเปิลจะคิดเป็น 1 ใน 3 หรือประมาณ 29% ของตลาดรวมเพลงอเมริกัน ขณะที่คู่แข่งอย่างอเมซอนครองส่วนแบ่งตลาดเพลงดิจิตอล 16% พร้อมกับไมโครซอฟท์ และคู่แข่งรายอื่นอย่างกูเกิลเพลย์ (Google Play) มีส่วนแบ่งตลาดราว 5% หรือต่ำกว่า ตามข้อมูลจากบริษัทวิจัยเอ็นพีดีกรุ๊ป (NPD Group)