คิดใหม่ได้แล้วสำหรับใครที่มองว่าวันนี้ไม่ใช่วันของยักษ์ใหญ่โลก ซอฟต์แวร์อย่างไมโครซอฟท์ หรือเบอร์หนึ่งวงการโทรศัพท์มือถือโลกอย่างโนเกีย เพราะล่าสุดไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่โนเกียประกาศว่าสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกหลังจากขาดทุนไปในไตรมาสก่อน หน้า แม้ตัวเลขรายรับรวมจะลดลงแต่ก็มีทิศทางไปได้สวย ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการเดือนกรกฎาคม-กันยายน 54 ซึ่งถือเป็นไตรมาส 1 ปีการเงินของบริษัท ว่ามีกำไร 5.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ทั้งหมดนี้ไมโครซอฟท์ได้รับคำชมว่าสามารถรับมือกับวิกฤตยอดขายพีซีหดได้ดี โดยสามารถดึงรายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติงสำหรับองค์กรมาทดแทนได้อย่างสวย งาม ไมโครซอฟท์ระบุว่า บริษัทสามารถทำรายได้ 1.737 หมื่นล้านเหรียญในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราเติบโต 7% โดยยอดรายรับจากค่าซื้อโปรแกรม Office, ระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมสำหรับจัดการฐานข้อมูลในกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจนั้นเติบโต สวนทางกับกลุ่มผู้บริโภคคอนซูเมอร์ที่ยังทรงตัว แน่นอนว่าไมโครซอฟท์กำลังตั้งความหวังไว้กับการเปิดตัว Windows 8 ระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไปของไมโครซอฟท์ที่สามารถใช้งานกับทั้งแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์พีซี โดยปีหน้า (2012) ซึ่งเป็นกำหนดการเปิดตัว Windows 8 มีแนวโน้มที่ไมโครซอฟท์จะรับทรัพย์มากขึ้นตามธรรมเนียม งานนี้ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าการร่วมมือกับยักษ์ใหญ่อย่างโนเกีย จะช่วยให้ไมโครซอฟท์สามารถเข้าถึงตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้น โดยเผยว่าโนเกียกำลังเตรียมการเปิดสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ในชื่อ Nokia 800 หรือ SeaRay ช่วงสัปดาห์หน้า ในงานประชุมที่โนเกียจะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลายฝ่ายเชื่อว่าโนเกียจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่จำนวน 3 รุ่นในงานดังกล่าวแต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนในขณะนี้ โดย Nokia 800 คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายหลังเปิดตัวในวันพุธ (26) ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เพื่อลุยทำตลาดในช่วงเทศกาลปลายปี สถานการณ์ล่าสุดของโนเกียคือการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาว่า สามารถทำกำไรราว 99 ล้านยูโร โดยแม้จะลดลง 74% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนแต่ก็ถือว่าเป็นการกู้สถานการณ์ได้ดีเพราะโนเกีย นั้นขาดทุนหนักในปีที่แล้ว ตลอดเดือนกรกฎาคม-กันยายน ยอดขายในไตรมาสนี้ของโนเกียมีมูลค่า 8,980 ล้านยูโร ลดลง 12.5% ผลจากการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่มีราคาไม่สูงได้มากกว่าสมาร์ทโฟนราคาแพง โดยโนเกียเปิดเผยว่าสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ 16.8 ล้านเครื่อง แต่จำหน่ายโทรศัพท์ทั่วไปได้ 89.8 ล้านเครื่อง ขณะที่โทรศัพท์แบบสองซิมสามารถขายได้ถึง 18 ล้านเครื่อง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ซีอีโอโนเกียยิ้มออก เพราะถือว่าโนเกียยังสามารถหาที่ยืนในตลาดได้อย่างชัดเจน Company Related Link : Microsoft Nokia
Must Read
