การฝึกคิดด้วยภาพ Visual Thinking สำหรับการทำงานและจัดการชีวิต

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

พอดีได้มีโอกาสฟังเรื่องราวเกี่ยวกับการฝึกคิดด้วยภาพหรือ Visual Thinking ซึ่งลองปรับมาใช้ ผมว่ามันเหมาะกับการทำงานและแก้ปัญหาต่างๆได้ดี เลยเอาเล่าให้ฟังกันในแบบฉบับของผม

Visual Thinking

Visual Thinking คืออะไร?

การใช้ความสามารถด้านการมองเห็นทั้งหมด เช่น สายตา จิตนาการทางความคิด หรือสมองไว้สำหรับประมวลผลความคิดให้ชัดเจนเพื่อให้เป็นนักสื่อสารที่ดีขึ้น

หลายคนมักกังวลเรื่องการวาดรูปมาก่อนเมื่อพูดถึง Visual Thinking แต่ที่จริงแล้วความสวยงามหรือเรื่องราวของการวาดรูปภาพไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับการฝึกฝนและวาดความคิดของตัวเราออกมามากกว่า อาจจะเริ่มจากการว่างรูปง่ายๆ พวกสัญลักษณ์สามเหลี่ยม วงกลม ลูกศรก่อนก็ได้ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอในการสื่อสารแล้ว นำไปสู่ Mind Mapping ที่เป็นแผนที่ทางความคิดนั้นเอง และนอกจากการวาดออกมาเป็นรูปภาพแล้ว การคิดเป็นรูปภาพก็ช่วยพัฒนาทางความคิดเช่นกัน

มีหลักการตามทฤษฎีตัวเลข 3,4,5,6 ดังนี้

  • 3 = เครื่องมือพื้นฐาน (Built-in Tool)
  • 4 = ขั้นตอน (Processes of Visual Thinking )
  • 5 = คำถาม (Powerful Questions with SQVID)
  • 6 = วิธีการเห็นและแสดงออก (Rules)

โดยทั้งหมดนี้ผมเอามาแยกอธิบายได้ในแต่ละส่วนแตกย่อยๆเพื่อให้เข้าใจเพิ่มเติมกันครับโดยเริ่มจาก

เครื่องมือพื้นฐานและไอเดีย

3 = เครื่องมือพื้นฐาน (Built-in Tool)

การใช้ภาพมาแทนตัวหนังสือจะทำให้เราเห็นความสำคัญและความสัมพันธ์กับส่วนต่างๆได้ดีขึ้น และที่สำคัญคือเราจะเห็นภาพรวมทั้งหมด เมื่อเราเจอข้อมูลที่มากมายบางครั้งเราจะหาวิธีการบอกต่อไม่เจอและถ้าเราไม่ได้วาดออกมาเป็นข้อมูล ข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่ได้รับการถ่ายทอดออกมาเช่นกัน มาถึงตรงนี้จะเริ่มต้นด้วยการ

  • จัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวข้องที่นอกจากรูปแบบรายงาน
  • การเก็บเกี่ยวข้อมูลรูปภาพ
  • การสื่อสารด้วยรูปภาพที่อธิบายได้ชัดเจนกว่า

ทั้งสามส่วนที่บอกมีการใช้งานจริงมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์แล้ว จะเห็นได้ว่ามีการใช้รูปภาพอธิบายสิ่งต่างๆตั้งแต่สมัยนั้น และแน่นอนก็ยังสามารถเข้าใจได้ว่าเรื่องรายที่เขาวาดมาต้องการสื่อสารอะไรบ้าง ดังนั้นภาษาภาพจึงสามารถสื่อสารได้ง่ายและเข้าใจแม้กาลเวลาจะผ่านมายาวนานก็ตาม สำหรับการเริ่มต้นที่ดีในส่วนนี้ให้เริ่มตากการ ดู เห็น จินตนาการ และแสดงออก เพื่อใช้ภาพเล่าเรื่อง

ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าประเด็นสำคัญคืออะไร ภาพที่ใช้เป็นอะไร และมีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง เมื่อเรารู้แล้วจะทำให้เราถ่ายทอดออกมาได้ดีมากยิ่งขึ้นครับ

จากหัวข้อทำให้เป็นส่วนผสมในการแก้ไขและอธิบายข้อมูลที่ดีก็จะประกอบด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Built-in Tool โดยมี 3 ตัวคือ ตา (Eyes), ตาในความคิด (Mind’s Eye) และมือ (Hand)

ไอเดีย สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ทำอยู่ และสิ่งที่ทำเสร็จแล้ว

4 = ขั้นตอน (Processes of Visual Thinking)

กระบวณการแก้ปัญหาต่างๆด้วยภาพ ซึ่งประกอบด้วย Look (ดู), See (เห็น), Imagine (จินตนาการ), และ Show (แสดงออก)

  • Look (ดู) เริ่มการเรียนรู้โดยการทำความเข้าใจให้ดี เก็บข้อมูลรายละเอียดให้ได้มากที่สุด
  • See (เห็น) เห็นกระบวณการหรือรูปแบบต่างๆ เพื่อการแก้ปัญหาที่ดี
  • Imagine (จินตนาการ) คำนึงถึงรูปภาพหรือลักษณะของปัญหาที่อยากจะนำเสนอออกมาว่าควรออกมาในรูปแบบไหน
  • Show (แสดงออก) การลงมือวาดรูปภาพเพื่อให้มองเห็นถึงข้อมูลที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด โดยเริ่มวาดออกมาเป็นฉบับร่างแล้วก็นำไปเช็กกับคนที่เกี่ยวข้องว่ามีความเข้าใจสิ่งที่นำเสนอหรือไม่ก่อน ถ้าเข้าใจไม่ตรงกันก็ปรับเนื้อหาที่นำเสนอใหม่ครับ
คำถามไปสู่กระบวณความคิด

5 = คำถาม (Powerful Questions with SQVID)

ชุดคำถามที่ใช้กระตุ้นสมอง ประกอบด้วยคำถามหลัก 5 ชุดประกอบด้วย

  • S-Simple แสดงแนวคิดแบบเรียบง่าย เพื่อขยายความให้เข้าใจ (Elaborate)
  • Q-Qualitative แสดงแนวคิดเชิงคุณภาพ เพื่อให้เกิดปริมาณ (Quantitative)
  • V-Vision แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศ เพื่อให้เห็นวิธีปฏิบัติและบรรลุผล (Execution)
  • I-Individual แสดงแนวคิดเป็นเอกเทศ และนำมาเปลี่ยนเทียบกับแนวคิดอื่นๆ (Compare)
  • D-Delta แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง และต้องบอกถึงสถานะปัจจุบันด้วย (Status quo)
ข้อตกลงที่เป้นเงื่อนไขของการเห็นและแสดงออก

6 = วิธีการเห็นและแสดงออก (Rules)

การแยกส่วนต่างๆออกเป็นส่วนย่อยๆแบบพิซซ่า 6 ชิ้น โดยเริ่มแรกเรามักเห็นปัญหาเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ลองมองให้เป็นพิซซ่า 1 ถาดย่อยๆ โดยแบ่งเป็น

  1. What/Who เรากำลังคิดถึงอะไร หรือใครที่เป็นปัญหาอยู่
  2. How many/How much สิ่งที่เรากำลังคิดเป็นจำนวนเท่าไหร่ หรือปริมาณน้อยหรือมากเท่าไหร่
  3. Where สิ่งที่เรากำลังมองอยู่ที่ไหน
  4. When สิ่งที่เรากำลังคิดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะเกิดตอนไหน
  5. How สิ่งที่เรากำลังคิดมันสัมพันธ์กันยังไง จาก 1-4 ข้อที่ผ่านมา
  6. Why สิ่งที่เรากำลังคิดนั้นเกิดขึ้นได้ยัง ทำไมถึงเกิดขึ้น

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This