ตอนนี้ BMW ยังไม่พร้อมจะเลิกผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน

Must Read

คอยานยนต์ทุกคนโปรดทราบ ครั้งนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุด BMW ยักษ์ใหญ่ยานยนต์แห่งมิวนิค ประเทศเยอรมันได้แสดงความชัดเจนว่ายังไม่พร้อมจะเลิกผลิตรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน ในห้วงเวลานี้ รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • BMW เสนอรัฐสภายุโรปให้เลื่อนการบังคับยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปออกไปอย่างน้อยจนถึงปี 2040
  • โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาย Oliver Zipse CEO บริษัท BMW ให้สัมภาษณ์กับ POLITICO ว่า การตั้งเป้ายุติการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100% ภายในปี 2035 เป็นเรื่องอันตรายมากสำหรับค่ายรถยุโรป เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจเป็นลิเธียม, โคบอลต์, นิกเกิล, แมงกานีส, และอื่น ๆ ต้องนำเข้าจากต่างชาติ อีกทั้งสงครามรัสเซีย – ยูเครน ยังทำให้ราคาวัตถุดิบเหล่านี้พุ่งทะยานอีกด้วย
  • ในขณะที่ค่ายรถยุโรปที่ให้การสนับสนุนและมีแผนยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี 2035 คือ Ford, Volvo, Volkswagen, และอื่น ๆ
  • มิถุนายนที่เพิ่งผ่านมา สื่อตะวันตกรายงานว่า ผู้ร่างกฎหมายรัฐสภายุโรปลงมติให้สนับสนุนการยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล 100% ในปี 2035 ยืนยันจะเดินหน้าตามเป้าหมายเดิมต่อไป เพื่อยกระดับการใช้งานและการลงทุนด้านรถยนต์ไฟฟ้า
  • นอกจากนี้ ยังมีบางประเทศ เช่น เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ที่เห็นว่าไทม์ไลน์นี้อาจช้าเกินไป และมีแผนยุติการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าจากค่าย BMW ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คอยานยนต์ไฟฟ้าทุกคน ส่วนบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เราก็คงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This