ธอส.ออกมาตรการลดภาระหนี้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

ธอส. เปิด“โครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย แก่ผู้ประสบอุทกภัยปี 2553” นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในปัจจุบัน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมที่จะเป็นกลไกหลักในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่ อาศัยให้กับลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ดังกล่าว ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลความเสียหายทุกจังหวัด มีลูกค้าธนาคารกว่า 5,000 ราย ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและ ทางอ้อม ธนาคารจึงได้จัดทำ 5 มาตรการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรวมถึงมาตรการฟื้นฟู ภายหลังที่ สถานการณ์น้ำท่วมได้ลดระดับลงแล้ว โดยจะพิจารณาตามระดับความเสียหายดังนี้  มาตรการที่ 1 กรณีหลักประกันได้รับความเสียหาย ธนาคารจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่ 1-4 = 0% ต่อปี และจะยกเว้นการผ่อนชำระเงินงวดค่าบ้านเป็นระยะเวลา 4  เดือน มาตรการที่ 2 กรณีผู้กู้ได้รับผลกระทบด้าน รายได้ ลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 1.00% เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร มาตรการ ที่ 3 กรณีผู้กู้ได้รับอุบัติเหตุจาก เหตุการณ์น้ำท่วมจนทุพลภาพถาวร ธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0.01% ตลอดระยะเวลากู้ที่เหลืออยู่ มาตรการที่ 4  กรณีที่อาคารที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะได้รับการปลดภาระหนี้ตามยอดหนี้คงเหลือในส่วนของอาคาร โดยผู้กู้ผ่อนชำระหนี้ในส่วนของที่ดินที่คงเหลือ มาตรการที่ 5 สำหรับลูกค้าเดิมของ ธอส.และ ลูกค้าใหม่ ที่อาคารได้รับความเสียหายสามารถขอกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม และซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.00% เป็นระยะเวลา 5 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศของธนาคาร คืออัตรา  ดอกเบี้ย MRR – 1.00% (ลูกค้าสวัสดิการ) และ MRR – 0.50% (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป) ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.50%  วงเงินให้กู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างหรือซ่อมแซมอาคาร โดยสามารถติดต่อยื่นคำ    ขอกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2553 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2554 พิเศษสำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้และทำนิติกรรมภายวันที่ 30 ธันวาคม 2553 จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ทุกวงเงินกู้  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th นาย วรวิทย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว ธนาคารยังเดินหน้าฟื้นฟูสภาพที่อยู่อาศัย จึงได้ร่วมกับมูลนิธิที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติ ประเทศไทย (Habitat) และสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จัดทำโครงการ “ ซ่อมบ้านเพื่อผู้ประสบอุทกภัย 53” ร่วมสร้างและซ่อมแซมบ้านพักอาศัยให้กับผู้ประสบ อุทกภัยที่มีความยากไร้และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อมอบความสุขและความอบอุ่นภายในบ้านให้กลับมาอีกครั้ง ในวัน จันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2553 ทีมผู้บริหารและพนักงานธนาคาร จะลงพื้นที่ ต.ท่าสะท้อน และต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด ให้กับ 500 ครอบครัว และมอบอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านจำนวน 50 ชุด สำหรับใช้ 500 ครอบครัว (จำนวน 1 ชุด ใช้สำหรับ 10 ครอบครัว) เพื่อนำไปใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับซ่อมแซมบ้าน พร้อมจัดทีมช่างแนะนำวิธีการซ่อมบ้านอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ด้าน CSR (Corporate Social Responsibility) ของธนาคาร

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This