ปลูกผักเลี้ยงปลาชิลๆ บนพื้นที่เล็กๆ ด้วยเทคโนโลยี

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำเช่นเคยกับเรื่องราวที่น่าสนใจด้านเทคโนโลยีการเกษตร สำหรับในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักเทคโนโลยีการปลูกผักเลี้ยงปลาไทยในกรุงลอนดอนด้วยระบบอควาโปนิกส์ที่ออกแบบโดยบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง GrowUp Urban Farms ซึ่งจะมีความน่าสนใจอย่างไร เราลองมาติดตามอ่านกันเลย 

“โกรว์อัพ เออร์เบินฟาร์มส (GrowUp Urban Farms)” ธุรกิจสตาร์ทอัพในอังกฤษ ปลูกพืชผักสวนครัวไทยและเลี้ยงปลานิลด้วยระบบอควาโปนิกส์ส่งเป็นวัตถุดิบให้เครือร้านอาหารไทยในกรุงลอนดอน

อควาโปนิกส์เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (ไฮโดรโปนิกส์) ควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาน้ำจืดด้วยระบบหมุนเวียน โดยนำน้ำเสียจากบ่อเลี้ยงปลาซึ่งผ่านกระบวนการกรองของเสียและเปลี่ยนแอมโมเนียในน้ำให้เป็นสารไนเตรตเพื่อใช้ในการปลูกพืช เคท ฮอฟแมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งโกรว์อัพ เออร์เบินฟาร์มส ได้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจนี้ หลังจากได้ไปเห็นฟาร์มไฮโดรโปนิกส์แห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาก่อตั้งธุรกิจเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยในระยะแรกปลูกพืชผักไฮโดรโปนิกส์ท้องถิ่นจำพวกผักสลัดต่าง ๆ ส่งให้ร้านอาหารทั่วไป และวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ต่อมาเคทได้รู้จักกับเจ้าของธุรกิจเครือร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ซึ่งเสนอให้เธอลองปลูกพืชผักสวนครัวไทยที่ทางร้านใช้ในการประกอบอาหาร เช่น ผักชีจิ๋ว กะเพรา โหระพา ต้นอ่อนทานตะวัน และ เรดฟริลล์มัสตาร์ด เพื่อเป็นการลดการพึ่งพิงการนำเข้าวัตถุดิบ

เคทบอกว่าผลการทดลองปลูกเป็นที่น่าพอใจไม่ต่างจากการปลูกพืชผักท้องถิ่น เพราะในห้องไฮโดรโปนิกส์มีการควบคุมปัจจัยแวดล้อมทุกอย่าง ทำให้มีสภาวะที่เหมาะสมกับการปลูกพืชผักสวนครัวไทย จากนั้นจึงเริ่มเพาะเลี้ยงปลานิลในระบบอควาโปนิกส์ควบคู่ไปด้วย ปัจจุบัน ทางฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิล 4,800 ตัวในถังเลี้ยง 12 ใบ ส่งให้เครือร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน และยังเริ่มแนะนำให้ร้านอาหารอื่น ๆ ในอังกฤษลองใช้ปลานิลในการประกอบอาหารด้วย

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This