Tuesday, July 1, 2025
28.9 C
Bangkok

ผลการทดสอบความแรง MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max เทียบกับรุ่นปี 2019

สวัสดีคอไอที และชาวแม็คบุ๊คทุกคน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่า MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max แรงขนาดไหน จากผลการทดสอบด้วยแอป Adobe Lightroom ใครที่สนใจอยากทราบก็ตามมาดูกันเล้ยย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ M1 Pro และ M1 Max ทั้งรุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว โดยชิป M1 Pro มี GPU สูงสุด 16 คอร์ ขณะที่ชิป M1 Max มาพร้อม CPU แบบ 10-core เหมือนกับ M1 Pro แต่มี GPU สูงถึง 32 คอร์ และมีจำนวนทรานซิสเตอร์ 7 หมื่นล้านตัว มากกว่าชิป M1 Pro ถึง 70%
  • ทีมงานของ CNET ได้นำ MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max พร้อม RAM 32GB มาเปรียบเทียบกับ MacBook Pro รุ่นปี 2019 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i9 พร้อม RAM 16GB มาทดสอบประสิทธิภาพด้วยการใช้งานแอปพลิเคชั่น Adobe Lightroom แก้ไขรูปภาพในรูปแบบต่างๆ ซึ่งพบว่า MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max มีความเร็วกว่าอย่างชัดเจน

การรวมภาพถ่าย Panorama ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล จำนวน 6 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 14 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 67 วินาที

การรวมภาพถ่าย HDR ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล จำนวน 3 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 12 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 22 วินาที

การรวมภาพถ่าย Panorama ความละเอียด 151 ล้านพิกเซล จำนวน 2 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 34 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 109 วินาที

 

และนี่ก็คืออีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ที่เราอยากจะอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจชาวแม็คบุ๊คทุกคน และก็หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลดีๆ สำหรับคุณไว้ใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อนะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

เมื่อ OpenAI มอง “ความสัมพันธ์มนุษย์-AI” สูงส่งเกินจริง แต่ผู้คนอินกับแชทบอทไปไกลแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI ไม่ได้เป็นเรื่องอนาคตอีกต่อไป—มันเกิดขึ้นตรงหน้า OpenAI เพิ่งโพสต์บล็อกโดย Joanne Jang ชี้แจงว่าบริษัทกำลังออกแบบโมเดลให้ “ดูอบอุ่นแต่ไม่แกล้งทำเป็นมีจิตวิญญาณ”...

หัวเว่ยรับชิพยังช้ากว่าอเมริกา 1 เจน แต่มีไม้เด็ดสู้ด้วยคณิตฯ-คลัสเตอร์!

คำให้สัมภาษณ์ของ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei ซึ่งยอมรับตรงๆ ว่าชิพ AI/เซิร์ฟเวอร์ของบริษัท “ยังตามหลังสหรัฐอยู่หนึ่งเจเนอเรชัน”...

โทรออกจากแมคได้จริง — Phone App บน macOS 26 ก้าวเล็ก ๆ ที่พา Mac เข้าใกล้ “โน้ตบุ๊กใส่ซิม”

ถ้าใครได้ดูงาน WWDC 2025 คงสะดุดตาว่า Apple ไม่ได้เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่派อะไรโฉบเฉี่ยว แต่กลับสร้างเสียงฮือฮาด้วย “Liquid Glass”...

“ทรัมป์” บ่น “จีนไม่ง่าย” เจรจาการค้ารอบใหม่ที่ลอนดอน ลุ้นคลายสงครามภาษีและแร่หายาก

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ลอนดอนเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 (ตามเวลาไทย) จบวันแรกไปแบบไม่มีประกาศชัยชนะ แต่ก็ยังไม่ถึงทางตัน —...

iPadOS 26: แท็บเล็ตสาย Mac ที่แท้ทรู — หน้าตาใหม่ Liquid Glass + หน้าต่างยืดหดได้เหมือนคอม

เปิดตัวในงาน WWDC 2025 iPadOS 26 คือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่ทำให้ iPad เข้าใกล้ประสบการณ์บน Mac...

Topics

OpenAI เปิดตัวโมเดล o3-pro ใน ChatGPT: แรงขึ้น ฉลาดขึ้น และใกล้มนุษย์มากกว่าเดิม!

OpenAI ประกาศเปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุดในตระกูล GPT อย่าง “o3-pro” สำหรับ ChatGPT โดยเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใครที่เป็นแฟนคลับสาย...

ฟีเจอร์ “Scheduled Actions” ใน Gemini: จัดคิวงานให้เอไอทำแทนแบบไม่ต้องคอยสั่งเอง

Gemini (ผู้ช่วย AI ของ Google) เพิ่งปล่อยฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Scheduled Actions ให้เรา...

เมื่อ OpenAI มอง “ความสัมพันธ์มนุษย์-AI” สูงส่งเกินจริง แต่ผู้คนอินกับแชทบอทไปไกลแล้ว

ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI ไม่ได้เป็นเรื่องอนาคตอีกต่อไป—มันเกิดขึ้นตรงหน้า OpenAI เพิ่งโพสต์บล็อกโดย Joanne Jang ชี้แจงว่าบริษัทกำลังออกแบบโมเดลให้ “ดูอบอุ่นแต่ไม่แกล้งทำเป็นมีจิตวิญญาณ”...

Liquid Glass ดีไซน์ใหม่สุดล้ำของ Apple – การพลิกโฉมหน้าตาอุปกรณ์ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี

ในงาน WWDC 2025 Apple เปิดตัว “Liquid Glass” ภาษาดีไซน์ใหม่ที่ลากเส้นบาง ๆ...

Related Articles

Popular Categories

spot_img