ผลการทดสอบความแรง MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max เทียบกับรุ่นปี 2019

Must Read

สวัสดีคอไอที และชาวแม็คบุ๊คทุกคน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่า MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max แรงขนาดไหน จากผลการทดสอบด้วยแอป Adobe Lightroom ใครที่สนใจอยากทราบก็ตามมาดูกันเล้ยย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ M1 Pro และ M1 Max ทั้งรุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว โดยชิป M1 Pro มี GPU สูงสุด 16 คอร์ ขณะที่ชิป M1 Max มาพร้อม CPU แบบ 10-core เหมือนกับ M1 Pro แต่มี GPU สูงถึง 32 คอร์ และมีจำนวนทรานซิสเตอร์ 7 หมื่นล้านตัว มากกว่าชิป M1 Pro ถึง 70%
  • ทีมงานของ CNET ได้นำ MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max พร้อม RAM 32GB มาเปรียบเทียบกับ MacBook Pro รุ่นปี 2019 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i9 พร้อม RAM 16GB มาทดสอบประสิทธิภาพด้วยการใช้งานแอปพลิเคชั่น Adobe Lightroom แก้ไขรูปภาพในรูปแบบต่างๆ ซึ่งพบว่า MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max มีความเร็วกว่าอย่างชัดเจน

การรวมภาพถ่าย Panorama ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล จำนวน 6 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 14 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 67 วินาที

การรวมภาพถ่าย HDR ความละเอียด 30 ล้านพิกเซล จำนวน 3 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 12 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 22 วินาที

การรวมภาพถ่าย Panorama ความละเอียด 151 ล้านพิกเซล จำนวน 2 ภาพ

  • MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 34 วินาที
  • MacBook Pro รุ่นปี 2019 ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 109 วินาที

 

และนี่ก็คืออีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ MacBook Pro รุ่นชิป M1 Max ที่เราอยากจะอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจชาวแม็คบุ๊คทุกคน และก็หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลดีๆ สำหรับคุณไว้ใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อนะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This