พามารู้จัก แบตเตอรี่เพชร ที่สามารถจ่ายพลังงานได้นานเป็นร้อยปี

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวที่น่าสนใจด้านเทคโนโลยี สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ แบตเตอรี่เพชร (Diamond Batteries)  ขยะจากรังสีที่สามารถให้พลังงานได้เป็นร้อยปี ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ลองมาดูกันเลย 

ที่มาของการค้นพบแบตเตอรี่เพชร 

นักวิทยาศาสตร์จากประเทศอังกฤษกำลังหาทางรีไซเคิลขยะกากกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ด้วยการเปลี่ยนมันให้กลายเป็น “แบตเตอรี่เพชร” (Diamond Batteries) ผ่านกระบวนการตกเคลือบด้วยไอเคมี (Chemical Vapor Deposition, CVD)

แบตเตอรี่เพชรคืออะไร?

แบตเตอรี่เพชร เป็นแนวคิดที่มีมาได้สักพักแล้วโดยนักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) โดยนักวิจัยพบว่าพวกเขาสามารถลดระดับรังสีภายในแกรไฟต์ที่ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้

โดยการให้ความร้อนจนมันเปลี่ยนรูปเป็นก๊าซ ก่อนจะบีบอัดด้วยความดันสูงจนมันตกผลึกกลายเป็นเพชรเทียม ทำให้ระดับรังสีลดน้อยลงและได้เพชรเทียมมาเป็นของแถม

นอกจากนั้นเพชรเทียมที่ได้จากกระบวนการนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษ คือมันจะสร้างกระแสไฟฟ้าระดับต่ำออกมาเมื่อถูกรังสี ถึงแม้พลังงานที่ปล่อยออกมาจะต่ำมาก แต่มันจะให้พลังงานอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังมันโดนรังสี

หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ มันจะกลายเป็นถ่านไฟฉายที่มีอายุการใช้งานนานเป็นร้อยหรือพันปี จนกว่าค่าครึ่งชีวิตของธาตุกัมมันตรังสีจะหมดไป ซึ่งวิธีที่นักวิจัยใช้สร้างแบตเตอรี่เพชรก็คือบรรจุสารกัมมันตรังสีเอาไว้ด้านในเพชรชนิดนี้นั่นเองครับ (ค่าครึ่งชีวิต คือจำนวนเวลาที่สารกัมมันตรังสีใช้ในการสลายตัวเหลือครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่เดิม)

และหลังจากการปิดตัวลงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เบิร์กลีย์ในปี 1989 มันก็ถูกปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 30 ปี แต่ล่าสุดระดับกัมมันตรังสีลดต่ำลงจนนักวิทยาศาสตร์สามารถไปเก็บกู้ขยะกัมมันตรังสีต่าง ๆ โดยเฉพาะแกรไฟต์ออกมาได้แล้ว

ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าแกรไฟต์เหล่านี้สามารถนำมารีไซเคิลเป็นแบตเตอรี่เพชรได้

“ด้วยการกักเก็บสารกัมมันตภาพรังสีเอาไว้ในเพชรเทียม เราสามารถสร้างแบตเตอรี่ที่ใช้งานเป็นร้อยหรืออาจจะเป็นพันปี และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราก็พัฒนาเซนเซอร์พลังงานต่ำ ที่สามารถกักเก็บพลังงานจากการสลายตัวของกัมมันตภาพรังสีดังกล่าวได้แล้ว” ศาสตราจารย์ทอม สกอตต์ (Tom Scott) กล่าว

โดยที่ความลับสำคัญของการผลิตแบตเตอรี่เพชร คือธาตุคาร์บอน 14 ที่ได้จากแกรไฟต์ปนเปื้อนกัมมันตรังสี ซึ่งคาร์บอน 14 มีค่าครึ่งชีวิตนานถึง 5,000 ปี

หมายความว่าเมื่อมันถูกนำไปใช้เป็นแบตเตอรี่เพชรแล้ว มันจะมีอายุการใช้งานนานกว่าถ่านไฟฉาย AAA ทั่วไปหลายพันเท่า และด้วยรูปแบบการผลิตที่สารกัมมันตรังสีจะถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเพชรเทียมด้านนอก เราจึงมั่นใจได้ว่าสารกัมมันตรังสีด้านในจะไม่รั่วออกมาแน่นอน

(ยกเว้นถูกกระแทกอย่างรุนแรง เพราะเพชรเป็นธาตุที่แข็งที่สุดก็จริง แต่ก็มีความเปราะและมีความทนทานต่อการถูกกระแทกระดับปานกลางเท่านั้น)

นอกจากเพชรจะเป็นวัตถุที่แข็งที่สุดในธรรมชาติแล้ว มันยังเป็นวัตถุที่นำความร้อนได้ดีที่สุดในธรรมชาติอีกด้วย โดยเพชรมีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อนอยู่ที่ 2200W/ (m·K) มากการ ‘เงิน’ ซึ่งเป็นโลหะที่นำความร้อนได้ดีที่สุดถึง 4 เท่า

อ้างอิง (Ref.)

ที่มา 1 

ที่มา 2 

ที่มา 3

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This