‘มาจิคลีน’ และ ‘ไฮเตอร์’ ภายใต้ คาโอ ประเทศไทย ผนึกกำลังเปิดตัว Kao Professiona

Must Read

กรุงเทพฯ –  คาโอ อินดัสเทียล (ประเทศไทย) เจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อุปโภคชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตของผู้คนที่ต้องปรับตัวให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องมีมาตรการเรื่องความสะอาดเพื่อต้อนรับผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น จึงได้นำสองแบรนด์ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดอย่าง ‘มาจิคลีน’ และ ‘ไฮเตอร์’ มาร่วมกันเปิดตัว Kao Professional Solution ศูนย์รวมข้อมูลในการทำความสะอาด เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมแก่ผู้ประกอบการทุกขนาด พร้อมยืนเคียงข้างผู้ประกอบการในไทยที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กัน

คุณ มิตซุโตชิ คามิยะ รองประธานส่วนการตลาด ธุรกิจสินค้าอุปโภค กล่าวว่า “ล่าสุด คาโอ ประเทศไทย ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ https://www.kaoprofessionalsolution.com เพื่อรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการทำความสะอาด รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สำหรับในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมการสร้างสุขอนามัยที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ โดยคาโอ (KAO) ได้นำความเชี่ยวชาญของทั้งสองแบรนด์มาเป็นองค์ความรู้ ตลอดจนนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม ดังนี้”

นำทีมด้วย มาจิคลีน (Magiclean) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านอันดับ 1 ที่ชูวิสัยทัศน์เรื่องความสะอาดล้ำ มีอนามัย เน้นการทำความสะอาดพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็น พื้น ห้องน้ำ หรือห้องครัว อาทิ มาจิคลีน น้ำยาถูพื้นที่เอาอยู่ในเรื่อง คราบเหนียว คราบสกปรกบนพื้น มาจิคลีน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดครัว ที่ช่วยลดแรงขัด ขจัดคราบไขมันในครัวได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะแก่ผู้ประกอบการ หรือมาจิคลีน ผลิตภัณฑ์เช็ดฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิว ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวที่หลากหลาย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู และจุดสัมผัสต่างๆ ในร้านอาหาร  เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดี สามารถฆ่าไวรัสและเชื้อโรคได้ถึง 99.9%* นอกจากนี้ ล่าสุด มาจิคลีน ยังได้รับรางวัล ‘แบรนด์ที่มีความโดดเด่น ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อและเติบโตมากที่สุดในปี 2021’ จากการจัดอันดับของ คันทาร์ (KANTAR)** บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการวิจัยผู้บริโภค

ผนึกกับ ไฮเตอร์ (Haiter) แบรนด์อันดับ 1 ด้านผลิตภัณฑ์ขจัดคราบบนผ้าขาว ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 99.9% บนพื้นผิวที่ไม่มีรูพรุน ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของไฮเตอร์ยังเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำความสะอาดผ้า ของใช้ต่างๆ ได้อย่างหมดจด

“สำหรับผู้ประกอบการ หรือภาคธุรกิจที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ https://www.kaoprofessionalsolution.com สามารถหาข้อมูล Tips and Tricks เกี่ยวกับการทำความสะอาดได้อย่างหลากหลาย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ และคนทั่วไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศูนย์รวมข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ และสามารถซัพพอร์ตผู้ประกอบการให้สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ และคาโอ ประเทศไทยพร้อมที่จะเดินเคียงข้างคนไทย และภาคธุรกิจต่อๆ ไป” คุณ มิตซุโตชิ
คามิยะ รองประธานส่วนการตลาด ธุรกิจสินค้าอุปโภค
กล่าวสรุป

Note:

*ผลการทดสอบจากห้องปฎิบัติการ ด้วยเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus, Salmonella choleraesuis และเชื้อไวรัส Influenza A(H1N1), Influenza A(H3N2), SARS-CoV-2

**Kantar (คันทาร์) บริษัทวิจัยชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกและที่ปรึกษาทางการตลาดระดับโลก ที่เข้าใจความคิด รู้สึก และปฏิบัติ ครอบคลุมระดับโลกและระดับประเทศในกว่า 90 ตลาด ด้วยความเชี่ยวชาญเชิงลึกของบุคลากร ทรัพยากรข้อมูล เครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐานระดับสูง และเทคโนโลยีทันสมัย

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This