แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชื่อราคาบ้านปีนี้ปรับ 5-10% แต่ราคาที่ดินทรงตัว ลุ้นประมูลที่ดินสามย่าน วาดแผนลงทุนหมื่นล้าน นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการลงทุนใหม่ในปีนี้ บริษัทไม่มีแผนจะเปิดโครงการในทำเลที่เกิดน้ำท่วม เพราะปัจจุบันมีโครงการเก่าในทำเลดังกล่าวที่ยังขายไม่หมด อีกทั้งภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จึงต้องการรอดูกำลังซื้อผู้บริโภคอีก 3-4 เดือน จึงประเมินเรื่องการพัฒนาโครงการใหม่ในทำเลน้ำท่วมอีกครั้ง “แผนการป้องกันน้ำท่วมโดยภาพรวม ต้องเป็นหน้าที่ของภาครัฐ จัดทำมาตรการป้องกันทั้งระยะสั้นและระยะยาว เน้นการแก้ไขระบบโครงสร้างของเมืองและการจัดการน้ำใน 3-5 ปีนี้ รวมทั้งกำหนดมาตรการช่วยเหลือ เรื่องการปล่อยสินเชื่อและหนี้สินผู้ประกอบการและประชาชนโซนน้ำท่วม” นายนพร กล่าว สำหรับทิศทางราคาบ้านในปีนี้ น่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากต้นทุนน้ำมันและต้นทุนการขนส่งในอัตราไม่สูงนัก หรือประมาณ 5-10% เพราะผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาจำนวนมากทำให้ผู้บริโภคไม่ มีกำลังซื้อ ขณะที่ราคาที่ดินในปีนี้ยังอยู่ในสภาวะทรงตัว ไม่มีทั้งการปรับขึ้นและปรับลดลง ด้านการลงทุนในปีนี้บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 16 โครงการ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 8 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ โดยเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 12 โครงการ และต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่ารวมทั้งหมด 32,620 ล้านบาท โดยปีก่อนเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการเช่นกัน แต่มีมูลค่ารวม 24,430 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างรอผลการประมูลเช่าที่ดินบริเวณสามย่าน จำนวน 13 ไร่ จากสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยหากสามารถประมูลได้ คาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนรวมค่าเซ้งที่ดินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท บริษัทจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์-ยูส ที่ประกอบด้วยศูนย์ค้าปลีก โรงแรม อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียมให้เช่า และศูนย์การประชุม คาดว่าจะรู้ผลใน 1-2 เดือนนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 22,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว ซึ่งมีรายได้ 19,185 ล้านบาท เติบโต 14.6% โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากบ้านเดี่ยว 69% ทาวน์เฮ้าส์ 7% และคอนโดมิเนียม 24%