สมาร์ทโฟน realme GT Neo สร้างปรากฏการณ์ยอดขายถล่มจนโลกตะลึง ในเวลาเพียง 10 วินาที ทำเงินได้มากถึง 480 ล้านบาท

Must Read

วันนี้เรามีข่าวที่น่าตื่นเต้นในโลกธุรกิจไอทีจะมาแจ้งให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบว่า สมาร์ทโฟน realme GT Neo ได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าตกตะลึงด้วยการทำยอดขายถึง 480 ล้านบาท ในเวลาเพียง 10 วินาที เท่านั้น

รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่สรุปด้านล่างนี้เลย

  • realme GT Neo มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 43 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส 360Hz
  • มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 7% ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ และเจาะหลุมไว้ที่มุมบนเพื่อวางกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง ประกอบด้วย กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล (Sony IMX682) + กล้อง Ultrawide 8 ล้านพิกเซล + กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล
  • realme GT Neo ทำงานบนพื้นฐาน Android 11 สวมทับด้วย realme UI 2.0
  • มีลำโพงสเตอริโอ ให้เสียงคุณภาพสูง Hi-Res Audio ระบบเสียง Dolby Sound
  • ขนาดบอดี้ 5 x 73.3 x 8.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 179 กรัม
  • ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ Final Fantasy, Geek Silver และ Hacker Black
  • สมาร์ทโฟนเรือธง realme GT Neo วางจำหน่ายแล้วในประเทศจีน และใช้เวลาเพียง 10 วินาที ในการสร้างยอดขายทะลุ 100 ล้านหยวน หรือราว 480 ล้านบาท

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟน realme GT Neo  ที่เราอยากจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอไอทีทุกคน สำหรับใครที่สนใจอยากได้ สมาร์ทโฟนตัวนี้มีราคาขายเปลีกเริ่มต้น เครื่องละ 1,799 หยวน หรือราว 8,690 บาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ววันนี้ทั้งทางออฟไลน์ และออนไลน์

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ปรับตัวใหม่! ตลาดหุ้นโลกและผลการประชุมธนาคารกลางส่งสัญญาณอะไรบ้าง?

สัปดาห์นี้เราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มาพร้อมกับการตัดสินใจสำคัญจากธนาคารกลางหลายแห่ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยไปจนถึงการอัปเดตเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ให้สัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามด้วยธนาคารกลางสวิสฯ ที่เริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นการตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่ลดลง ในอีกด้านของโลก, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ยังคงนโยบายการซื้อพันธบัตร เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในขณะนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This