สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการอัพเดทสรุปการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษคู่ที่น่าสนใจ สำหรับครั้งนี้ก็เป็นคู่แดงเดือดระหว่าง เลสเตอร์-ลิเวอร์พูล ในค่ำคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นทางเลสเตอร์ที่เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะลิเวอร์พูลผู้มาเยือนด้วยสกอร์ 3-1 รายละเอียดการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลยที่สรุปด้านล่างนี้
สรุปการแข่งขันระหว่าง เลสเตอร์-ลิเวอร์พูล : 3-1 ในค่ำคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2021 ได้ดังนี้
- “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ยังคงอยู่อันดับ 3 ของตาราง โดยหากนัดนี้ซิวชัยได้ จะขยับขึ้นรองจ่าฝูงชั่วคราว ฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟอร์มไม่ดีเลย แพ้มาติดต่อกัน 2 นัดในถิ่น อันดับรูดลงมาแค่ที่ 4
- เปิดเกมมาทั้ง 2 ทีมบีบเข้าใส่กันรวดเร็ว ลิเวอร์พูลดูจะครองเกมบุกได้มากกว่า บอลยาวจากหลังให้ “โม ซาล่าห์” โฉบหนีตัวประกบ แต่จังหวะสุดท้ายดันทำได้ไม่ดี บอลไปโดนเท้าขวาออกไปไม่ได้ลุ้น
- เลสเตอร์ครองเกมน้อยกว่า แต่ก็หาโอกาสฉาบฉวยได้ดี “ฮาร์วีย์ บาร์นส์” ตักบอลข้าม “โอซาน คาบัค” กองหลังตัวใหม่ที่ลงประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูล “เจมี่ วาร์ดี้” โฉบถึงบอลก่อนกระดกยิงเร็วด้วยขวา แต่ลูกลอยไปตกบนตาข่ายหลังคานเท่านั้น
- หงส์แดงมาได้ลุ้นเพิ่มเติม “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์” โฉบขึ้นมาตรงกลาง ก่อนไหลทะลุให้ซาล่าห์ ที่แตะบอลแรงไปนิด “แคสเปอร์ ชไมเคิล” ปรี่ออกมาปิดมุม ซาล่าห์เลยได้แค่กระดกเข้ากลาง และสุดท้าย “ซาดิโอ มาเน่” พุ่งเข้าชาร์จโดนไม่ดีออกไป
- แชมป์เก่ามาได้ลุ้นอีกที จากจังหวะที่น่าจะล้ำหน้า แต่ไลน์แมนปล่อยให้เล่นต่อ “จอร์แดน เฮนเดอร์สัน” ตบกลับมาให้ “โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่” ได้ยิงจ่อๆ แต่ชไมเคิลยังกางตัวมาป้องกันได้ด้วยมือเดียว
- เกมสู้กันสนุกทีเดียว บาร์นส์ขยับขึ้นเกมมาทางซ้าย ก่อนจะเปิดเข้าไปให้วาร์ดี้ขึ้นโขก แต่ยังตรงตัว “อลิสซง เบ็คเกอร์” อีกจังหวะ บอลเปิดฉาบฉวยจากหลัง คาบัคไปเสียหลักลื่น “เจมส์ แมดดิสัน” เลยได้ดีดส้นให้วาร์ดี้หลุดไปซัด แต่ลูกยังพุ่งไปเช็ดคานออกไป จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
- ครึ่งหลัง หงส์แดงเริ่มเกมได้ดี หลังครองเกมกดดันมากกว่าชัดเจน ก็มาได้ลุ้นใกล้เคียง อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ ซัดฟรีคิกไปแฉลบหัวของวาร์ดี้ บอลพุ่งจะมุดเสียบสามเหลื่ยม แต่ชนคานเด้งออกไปเสียก่อน
- หลังได้ลุ้นมากกว่า หงส์แดงก็มาออกนำจนได้ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์เติมขึ้นมา ก่อนได้บอลในเขตโทษ และเปิดยัดกลางให้ฟิร์มิโน่ กองหน้าบราซิเลียนโชว์ลวดลาย ดึง 2 จังหวะก่อนดีดกลับหลังให้ซาล่าห์ได้วิ่งมาแปโค้งเข้าเสาสองงดงาม ทีมเยือนนำ 1-0
- เลสเตอร์หาโอกาสจบในครึ่งหลังไม่ได้เลย จนเวลาจวนจะเข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย กรรมการเป่าให้ฟาล์วบาร์นส์ที่ลุยมาโดน “ติอาโก้ อัลคันทาร่า” ขวางล้มลงบริเวณริมกรอบ หลัง VAR เช็คพักนึง สุดท้ายมองว่ายังไม่เข้าเขตโทษนิดเดียว
- แมดดิสันรับหน้าที่กึ่งยิงกึ่งผ่าน ลูกไม่โดนใครเข้าไป แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า เพราะ “ดาเนียล อมาเตย์” โฉบเข้าเล่น แล้วมีส่วนรบกวนอลิสซง VAR ต้องเช็คอีกหน และหลังจากตีเส้นกันอยู่พักใหญ่ กลายเป็นปลายสตัดท์ของฟิร์มิโน่ยื่นเลยแขนเสื้อของอมาเตย์ แบบเส้นยาแดงผ่าแปด กรรมการให้เป็นประตูเสมอ 1-1
- พอมาได้ประตูตีเสมอ เลสเตอร์แซงนำเฉยเลยในอีก 2 นาทีต่อมา บอลวางยาวจากหลังของจิ้งจอกสยาม แล้วคาบัคกับอลิสซงสื่อสารไม่เข้าใจ กลายเป็นเข้าถึงบอลนอกเขตโทษพร้อมกัน แล้วลูกเด้งไปเข้าทางวาร์ดี้ ที่เลี้ยงเข้าไปยิงโล่งๆ แบบเหลือเชื่อ เจ้าถิ่นแซง 2-1
- หงส์แดงดูจะเป๋ไปทันที บาร์นส์ได้ลุยเข้ามาก่อนยิงไปติดเซฟอลิสซง วาร์ดี้ปรี่เข้าซ้ำโล่งๆ แต่อลิสซงยังไว พุ่งตามมาปัดลูกจากบนเส้นมาชนเสาออกไป รอดเหลือเชื่อ
- อย่างไรก็ดี จากจังหวะเสียบอลตรงกลางของลิเวอร์พูล “วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้” ตัดบอลได้ แล้วแทงบอลทีเดียวให้บาร์นส์ทะลุไปรับบอลไม่ล้ำหน้า คาบัคสปีดตามไม่ทัน บาร์นส์เลยซัดเข้าเสาสองเรียบร้อย จบเกมเลสเตอร์ชนะด้วยสกอร์ 3-1
- จิ้งจอกสยามขยับแซงแมนฯ ยู ไปเป็นรองจ่าฝูงชั่วคราว ฝั่งหงส์แดงยังไม่ฟื้น แพ้ 3 นัดรวด อยู่อันดับ 4 แต่มีทีมอันดับใกล้เคียงรอแซงอีกเพียบ
และนี่ก็คือสรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ เลสเตอร์-ลิเวอร์พูล ที่เราอยากแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคอบอลทุกคน ส่วนผลการแข่งขันของคู่อื่นๆ ในค่ำคืนนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อได้เลย