ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน Android มาเป็นที่ 1 ตามมาด้วย iOS จาก iPhone

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Android vs iOS

ไอดีซีบริษัทวิจัยได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขที่น่าสนใจเกียวกับส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของทั่วโลก ซึ่งพบว่า Android และ iPhone รวมกันแล้วมีส่วนแบ่งของผู้ใช้มากกว่า 85% ในขณะเดียวกัน วันนี้จะมีการเปิดตัว iPhone 5 ยิ่งส่งผลให้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จนถึงปลายปีนี้ ตัวเลขรวมของสมาร์ทโฟนสองแพลตฟอร์มนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก จนแทบจะไม่มีที่ยืนให้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็เป็นได้ โดยเฉพาะอันดับรองๆ ลงมาอย่าง Windows Phone และ BlackBerry บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทางฝั่งแอนดรอยด์ก็จะมีแกนนำอย่าง ซัมซุง (Samsung) ตามด้วย เอชทีซ๊ (HTC) และโมโตโรลา โมบิลิตี้ (Motorola Mobility) ของกูเกิ้ล ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นผู้นำตลาด ในขณะเดียวกันซัมซุงก็มีโมบายโอเอสของตนเองที่ชื่อว่า Bada (ใช้ Linux เหมือนแอนดรอยด์) และโนเกีย (Nokia) ก็มีซิมเบี้ยน (Symbian) แต่ก็แทบจะไม่มีที่ยืนอยู่ในตลาดแล้ว คงมีแต่ Windows Phone ที่โนเกียร่วมมือกับไมโครซอฟท์ที่มีการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดให้เห็นบ้างเหมือกนัน แม้จะช้าไปหน่อยก็ตาม สำหรับภาพรวมส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่สองของปี 2012 ประกอบด้วย Android 104.8 ล้านเครื่อง (68.1%) ตามด้วย iOS (ไอโฟน) 26 ล้านเครื่อง (16.9%) แบล็คเบอรี่ (RIM) 7.4 ล้านเครื่อง (4.8%) ซิมเบี่ยน (Symbian) 6.8 ล้านเครื่อง (4.4%) และ Windows Phone (Microsoft) 5.4 ล้านเครื่อง (3.5%) แล้วในมือคุณเป็นอะไร?

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ปรับตัวใหม่! ตลาดหุ้นโลกและผลการประชุมธนาคารกลางส่งสัญญาณอะไรบ้าง?

สัปดาห์นี้เราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มาพร้อมกับการตัดสินใจสำคัญจากธนาคารกลางหลายแห่ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยไปจนถึงการอัปเดตเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ให้สัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามด้วยธนาคารกลางสวิสฯ ที่เริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นการตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่ลดลง ในอีกด้านของโลก, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ยังคงนโยบายการซื้อพันธบัตร เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในขณะนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This