หน้า Feed ของ Facebook ถูกยกเครื่องใหญ่ เน้นฟีดคอนเทนต์จากครีเอเตอร์

Must Read

สวัสดีชาวโซเชียลทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวใหญ่จะมาแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุด Facebook ยกเครื่อง หน้าฟีดใหม่ จะเน้นเนื้อหาจาก ครีเอเตอร์มากกว่าโพสต์จากเพื่อนและครอบครัว เพื่อแข่งขันกับ TikTok รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้

  • Facebook ยอมรับมาพักใหญ่ๆ แล้วว่า TikTok ที่แม้จะมีการใช้งานคนละแบบกัน แต่กลับเป็นคู่แข่งที่คาดไม่ถึงที่มาชิงเวลาจากผู้ใช้ไป จนล่าสุดได้มีการประกาศยกเครื่อง ‘หน้าฟีด’ ใหม่ ที่จะเน้นเนื้อหาจาก ‘ครีเอเตอร์’ มากกว่าโพสต์จากเพื่อนและครอบครัว เพื่อแข่งขันกับ TikTok อย่างจริงจัง
  • ต่อไปนี้ในหน้าแรกจะแสดงโพสต์ที่ให้ความบันเทิงมากขึ้นจากครีเอเตอร์ และจะช่วยให้เข้าถึงบริการวิดีโอแบบสั้นทั้งฟีเจอร์ Facebook Stories และ Instagram Reels ซึ่งขณะนี้ Facebook กำลังสนับสนุนให้ผู้ใช้โพสต์บนทั้งสองแพลตฟอร์ม
  • ผู้ใช้ที่ต้องการดูโพสต์ล่าสุดจากเพื่อน ครอบครัว เพจและกลุ่มที่ชื่นชอบจะพบโพสต์เหล่านั้นในแท็บ ฟีดใหม่ ผู้ใช้จะสามารถสร้างรายการโปรดของบุคคลและกลุ่มที่ต้องการดูเนื้อหาได้มากที่สุด
  • “แอปจะยังคงเปิดสำหรับฟีดส่วนบุคคลบนแท็บหน้าแรก ซึ่งกลไกการค้นพบของเราจะแนะนำเนื้อหาที่เราคิดว่าคุณจะสนใจมากที่สุด” มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Facebook กล่าวในโพสต์ “แต่แท็บฟีดจะใช้วิธีปรับแต่งและควบคุมประสบการณ์ของคุณเพิ่มเติม”
  • รูปลักษณ์ใหม่ของแพลตฟอร์มนี้เกิดขึ้นหลังการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Facebook จะอนุญาตให้ผู้ใช้มีโปรไฟล์ได้สูงสุด 5 โปรไฟล์ในแต่ละบัญชี Facebook กล่าวว่าตัวเลือกนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสบการณ์ของตนได้ง่ายขึ้นเมื่อมีส่วนร่วมกับชุมชนบางแห่ง เช่น เพื่อนกับเพื่อนร่วมงาน บนแพลตฟอร์ม
  • ในปี 2018 Facebook ได้เปลี่ยนอัลกอริทึมการแนะนำเพื่อจัดลำดับความสำคัญของโพสต์ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ซึ่งหมายถึงการยกระดับเนื้อหาจากเพื่อนและครอบครัว แต่ยังรวมถึงเนื้อหาที่แตกแยกซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่รุนแรง และตั้งแต่นั้นมา Facebook ก็ได้ปรับเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาใหม่อย่างต่อเนื่อง
  • รายงานของ CNN Business ระบุว่า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Facebook และ Instagram ถูกกล่าวหาว่าคัดลอกคุณสมบัติใหม่ยอดนิยมของแพลตฟอร์มคู่แข่งแทนที่จะสร้างนวัตกรรมของตัวเอง อย่าง Instagram Reels ซึ่งตอนนี้ Meta กำลังพยายามรวมเข้ากับ Facebook นั้นเกือบจะเหมือนกับวิดีโอของ TikTok (อันที่จริงเมื่อฟีเจอร์เปิดตัวครั้งแรก ผู้ใช้จำนวนมากเพียงอัปโหลดวิดีโอ TikTok ไปยัง Instagram พร้อมโลโก้ของคู่แข่ง)
  • การอัปเดตแพลตฟอร์มยังดูเหมือนเป็นการพยายามเลียนแบบความสำเร็จของ TikTok ในการดึงดูดผู้ใช้ด้วยการแสดงเนื้อหาที่แนะนำ แม้ว่า Facebook ต้องการให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการมีส่วนร่วมกับทิศทางใหม่หรือใช้งานแพลตฟอร์มต่อไปเช่นเดิม
  • บริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta พยายามที่จะป้องกันการแข่งขันที่รุนแรงจาก TikTok ซึ่งมีส่วนทำให้การเติบโตของกำไรของบริษัทชะลอตัว​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​ในเดือนกุมภาพันธ์ Meta สร้างความตกใจให้กับนักลงทุนด้วยตัวเลขการสูญเสียผู้ใช้รายวันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 18 ปี ส่งผลให้ราคาหุ้นตกต่ำ แต่ในทางตรงกันข้าม TikTok มีฐานผู้ใช้ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 110 ล้านคน จึงไม่แปลกที่ Facebook จะมอง TikTok เป็นคู่แข่งตัวฉกาจ
  • Meta อยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านไปสู่บริษัทที่มีศูนย์กลางอยู่ที่อนาคต โดยอาศัย ‘Metaverse’ แทนที่จะเป็นโซเชียลมีเดีย แต่จำเป็นต้องรักษาผลกำไรจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่เพื่อลงทุนในวิสัยทัศน์นั้น
  • ทั้งนี้แท็บฟีดใหม่จะเริ่มปรากฏในแถบทางลัดของ Facebook สำหรับผู้ใช้บางคนในวันพฤหัสบดี (21 กรกฎาคม) และคาดว่าจะเปิดตัวทั่วโลกในสัปดาห์หน้า

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจาก Facebook ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจชาวโซเชียลทุกคน และหากมีข่าวความเคลื่อนไหวสำคัญจากในแวดวงโซเชียลอีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This