หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องฟันธงว่าการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จะทำให้ธุรกิจยานยนต์ของโลกซึมยาว !

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน วันนี้เรามีเรื่องสำคัญในโลกธุรกิจยานยนต์จะมาแจ้งให้ทราบว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลสะเทือนต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลกในระยะยาว โดยเฉพาะกับห่วงโซ่การผลิตและยอดขาย

สำนักข่าว CNN Business รายงานว่า

บริษัทรถยนต์ทุกแห่งที่มีโรงงานการผลิตอยู่ในเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาดต้องปิดทำการนานหลายสัปดาห์ ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตชิ้นส่วนของซัพพลายเออร์ต่าง ๆ ก็ต้องปิดทำการชั่วคราวเช่นกัน

S&P Global Ratings ระบุว่า

=> การแพร่ระบาดของไวรัสจะทำให้ยอดการผลิตทั่วทั้งเอเชียลดลง 15% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยส่งผลกระทบกับบริษัทรถยนต์ที่มีโรงงานในอู่ฮั่น ทั้ง GM, Nissan, Renault, Honda, และ PSA Group

=> ด้าน Volkswagen มีโรงงานประกอบรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนอยู่ในประเทศจีนถึง 24 แห่งหรือเท่ากับ 40% ของยอดการผลิตทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนียืนยันว่า กำหนดการส่งมอบรถให้ลูกค้านั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ไซมอน แมคอาดัม นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ของ Capital Economics กล่าวว่า

ยิ่งสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อมากเท่าไหร่ อุตสาหกรรมยานยนต์โลกยิ่งได้รับผลกระทบมากเท่านั้น การแพร่ระบาดของไวรัสไม่เพียงส่งผลต่อการผลิตเท่านั้น แต่ยังสะเทือนความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ความต้องการที่จะออกไปเยี่ยมชมรถในโชว์รูมลดลง และดูเหมือนสถานการณ์จะย่ำแย่ลงไปกว่านี้ได้อีก ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ 

สิ่งที่เราควรทราบก็คือ ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ยอดขายรถทั่วโลกถดถอยอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มียอดขายปรับตัวลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ปัจจัยลบอย่างไวรัสที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่าไวรัสซาร์สในปี 2003 จะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ย่ำแย่ลงไปอีก

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ปรับตัวใหม่! ตลาดหุ้นโลกและผลการประชุมธนาคารกลางส่งสัญญาณอะไรบ้าง?

สัปดาห์นี้เราเห็นการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มาพร้อมกับการตัดสินใจสำคัญจากธนาคารกลางหลายแห่ง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยไปจนถึงการอัปเดตเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ให้สัญญาณว่าอาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามด้วยธนาคารกลางสวิสฯ ที่เริ่มต้นด้วยการลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นการตอบสนองต่อเงินเฟ้อที่ลดลง ในอีกด้านของโลก, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ทำการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่ยังคงนโยบายการซื้อพันธบัตร เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในขณะนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This