เชื่อมั้ยว่า MacBook Air รุ่นใหม่ บางกว่า iPhone รุ่นแรกเฉยเลย

Must Read

ชาวแม็คบุ๊คทุกคนต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เรามีข่าวที่น่าสนใจจะมาแจ้งให้ทราบว่า ความบางของ MacBook Air รุ่นใหม่ ทำให้ iPhone รุ่นแรก ดูอ้วนไปเลย รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจล่าสุดเกี่ยวกับ MacBook Air รุ่นใหม่ ได้ดังนี้

  • MacBook Air รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการเปิดตัวในงานประชุม WWDC 2022 มาพร้อมชิป M2 ที่ทรงพลัง และยังคงรักษาดีไซน์ที่บางเฉียบเพียง 13 เซนติเมตร หรือ 0.44 นิ้ว แต่ถ้าไม่ทันสังเกตเห็น เราสามารถบอกได้ว่า MacBook Air รุ่นใหม่ มีความบางกว่า iPhone รุ่นแรก อย่างชัดเจน
  • หากเราย้อนกลับไปดู MacBook Air รุ่นแรก ที่มีความบาง 76 นิ้ว ซึ่งหนากว่า MacBook Air รุ่นใหม่ล่าสุดถึง 42% แต่ MacBook Air รุ่นแรก ก็ยังบางพอที่จะโปรโมทด้วยการให้ Steve Jobs หยิบออกมาจากซองเอกสาร
  • MacBook Air รุ่นใหม่ ยังบางกว่า MacBook Air รุ่นก่อนหน้า (รุ่นชิป M1) ถึง 30% เมื่อเทียบกับส่วนที่หนาที่สุด แต่ MacBook Air รุ่นชิป M1 มีส่วนที่บางที่สุดเพียง 16 นิ้ว เนื่องจากใช้ดีไซน์ที่มีความลาดเอียง ขณะที่ MacBook Air รุ่นชิป M2 มีความบางเท่ากันทั้งตัวเครื่อง
  • เมื่อเทียบกับผลิตภัณ์คลาสสิคของ Apple อย่าง PowerBook 180c ที่เปิดตัวในปี 1993 มีความหนาถึง 25 นิ้ว หรือ หนากว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air รุ่นใหม่
  • iPod รุ่นแรก รุ่นที่เปิดตัวในปี 2001 มีความหนา 78 นิ้ว และ iPhone รุ่นแรก มีความหนา 0.46 นิ้ว ทำให้ MacBook Air รุ่นใหม่ ดูบางกว่าอย่างชัดเจน

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจล่าสุดเกี่ยวกับ MacBook Air ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจชาวแม็คบุ๊คทุกคน เพราะเราเชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้นะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This