แจ้งชาวไอทีเมามันส์จงเตรียมตัวเตรียบมใจและรับมือช่วงที่อากาศร้อนสูงถึง 44 องศา โดยข้อมูลจากอาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ปีนี้จะยิ่งร้อนกว่าปีก่อน เพราะมีมวลอากาศร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากปกติในรอบ 50 ปี พัดเข้ามาปกคลุม โดยในแผนที่มวลอากาศพบว่า ประเทศไทยจะร้อนที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนในช่วงวันที่ 17-19 มีนาคม นี้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นมาจากมวลอากาศดังกล่าวมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อน หรือ “ฮีตเวฟ” (Heat wave) ได้ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิยิ่งสูงขึ้นและร้อนในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเลยทีเดียว ทั้งนี้ คลื่นความร้อนจะเกิดได้เมื่อมีองค์ประกอบ คือ อากาศมีอุณหภูมิร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียสติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง มีความชื้นสัมพัทธ์ หรือหน่วยวัดระดับความชื้นในอากาศที่ใช้คำนวณมวลของไอน้ำใน มีค่าเกิน 70%
โดยเจ้าคลื่นความร้อนจะรุนแรงเพียงใดขึ้นอยู่กับอากาศในพื้นที่ นั้นหรือบริเวณนั้นนิ่งหรือมีการถ่ายเทหรือไม่ โดยกลุ่มที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน คือ เด็กที่ต่ำกว่า 5 ขวบซึ่งระบบระบายความร้อนในร่างกายยังพัฒนาไม่เต็มที่ ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 70 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัวและโรคบางชนิดที่ระบบระบายความร้อนในร่างกายทำงานบกพร่อง
และเมื่อเปรียบเทียบเมืองหลวงของทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนแล้ว พบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแทบทุกปี กรุงเทพมหานคร ครองแชมป์อากาศร้อนที่สุดมาตลอด เพราะสภาพโดยรวม แม้ว่าจะเป็นเมืองกลางทุ่ง ไม่มีภูเขา และอยู่ติดทะเลก็จริง แต่มีปัจจัยอื่นที่ที่ทำให้มีอากาศร้อนกว่าประเทศอื่นๆ เช่นเรื่องของจำนวนสิ่งก่อสร้าง และปริมาณต้นไม้ เช่นเปรียบเทียบกับประเทศสิงคโปร์ ที่ตั้งอยู่ในละติจูดที่ใกล้เคียงกัน แต่ฤดูร้อนของทุกปี เมืองหลวงของสิงคโปร์ จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า กรุงเทพมหานครประมาณ 2-3 องศาเซลเซียสเสมอ ประเด็นนี้มีปัจจัยที่สำคัญคือ ประเทศสิงคโปร์ เป็นเกาะเปิด มีลมจากรอบทิศ และมีต้นไม้มากกว่ากรุงเทพมหานครมาก
เมื่อถามว่า ปีนี้ กรุงเทพจะมีอากาศร้อนที่สุด และร้อนกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาหรือไม่ นายอานนท์ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ากรุงเทพฯจะมีอากาศร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะไม่มีสัญญาณอะไรบอกมากมายนัก อุณหภูมิน้ำทะเลก็ร้อนประมาณนี้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้กล่าวอีกว่า “38-39 องศาเซลเซียส สำหรับกรุงเทพ ผมถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่น่าจะถึง 40 องศาเซลเซียส เพราะปัจจัยแวดล้อม ไม่ได้บ่งบอกว่าจะร้อนถึงขั้นนั้น อีกอย่างกรุงเทพฯอยู่ติดทะเล ยังได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม และมีเมฆ ที่จะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อากาศไม่ร้อนมากเกินไป โดยสถิติอากาศในกรุงเทพนั้นสูงสุดอยู่ที่ 43.3 องศาเซลเซียสเท่านั้น ไม่ถึง 44 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม พื้นที่อื่นๆ เช่น จ.กำแพงเพชร ตาก หรือ กาญจนบุรี อากาศน่าจะร้อนถึง 44 องศา”
ใครที่ไม่ชอบอากาศร้อนและต้องการเตรียมรับมือมาดูวิธีคลายร้อนที่เอามาแนะนำกันดังนี้
- ทานผลไม้จำพวกแตงๆ แตงโม แตงไทย แคนตาลูป ผลไม้เหล่านี้ มีส่วนประกอบของน้ำสูงถึง 95% จึงสามารถทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเนื่องจากอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังอุดมด้วยโปแตสเซียม
- อาบน้ำและทาด้วยแป้งเย็น อากาศร้อนแบบนี้ทำให้เกิดผด ผืน ได้ง่าย เพราะฉะนั้นชำระล้างร่างกายเพื่อให้ร่างกายสดชื่นและเพิ่มความเย็นสุดขั้ว ด้วยแป้งเย็น ก็คลายร้อนได้มากทีเดียว
- เปิดพัดลมแรงๆ พร้อมเปิดหน้าต่างรับลม หรือใครมีแอร์ก็จัดไป
- ใช้ผ้าชุบน้ำ หรือถุงผ้าชุบน้ำใส่น้ำแข็ง แขวนไว้หน้าพัดลม ก็เย็นเหมือนเปิดแอร์ ผ้าขนหนูผืนเล็กๆชุบน้ำแช่ในช่องแข็ง หรือแช่เย็นไว้หลายๆผืน ควรหาอะไรใส่หุ้มไว้ทุกผืน ป้องกันไม่ให้ติดกัน หรือเปรอะเปื้อน เอาออกมาเช็ดหน้า เช็ดตัว พาดไว้ที่คอ คลายร้อนได้ดี
- ทำน้ำเย็นใส่กระติกไว้ทาน ใส่กระติกใบเล็กสำหรับพกออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องไปซื้อน้ำเย็น น้ำแข็งใสที่ไหน หรือซื้อถาดทำน้ำแข็งไว้เยอะๆ ทำน้ำแข็งใส่ที่เก็บน้ำแข็งไว้ให้มีใช้ตลอดเวลา
- ทำไอศครีมหรือหวานเย็นทานเอง จะใช้น้ำผลไม้คั้นสดๆ (คั้นด้วยมือ) ผสมน้ำผึ้ง น้ำเชื่อม เกลือนิดหน่อย หรือ ใช้น้ำแข็งทุบละเอียดใส่น้ำหวานก็ชื่นใจ หรือจะหาซื้อก็จัดไปทั้งแบบแท่ง แบบตัก ความเย็นชื่นใจของเจ้าไอศกรีมจะช่วยให้เพื่อนๆสดชื่นขึ้นได้
- ใส่เสื้อผ้าสบายๆ ชิลล์ๆ แขนยาว ขายาวเก็บเข้าตู้ไปก่อน เพราะอากาศร้อนๆใส่แบบนั้นมันจะเพิ่มความร้อนเอาได้ เน้นเสื้อผ้าสีอ่อนๆ เพราะเสื้อผ้าสีเข้มจะทำให้เรารู้สึกร้อนยิ่งขึ้น ทางที่ดีควรใส่เสื้อผ้าที่ทำจากใยธรรมชาติ งดผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์
- ว่ายน้ำ เล่นน้ำ แถวสโมสรกีฬาที่มีสระว่ายน้ำให้ลงเล่นได้ หรือจะเล่นที่แม่น้ำก็ได้ถ้าอยู่ไกล้
- เดินเล่นนั่งเล่นห้างสรรพสินค้า ทานอาหารในห้างสรรพสินค้า ไม่ได้เสียค่าไฟแถมได้แอร์โดยไม่ต้องเปิดแอร์เองที่บ้าน หรือไปนั่งอ่านหนังสือชิลล์ๆ ในร้านฟาสฟู้ดก็ดีเหมือนกันนะครับ
- นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ ตามสวนสาธารณะ สถานที่คุ้นเคย
- รดน้ำต้นไม้ นอกจากจะคลายร้อนยังได้ออกกำลังกาย แถมทำงานไปด้วยก็ได้ 3 in 1
- ปิดบ้านหนีร้อนไปเที่ยว อาจจะเป็นน้ำตก หรือทะเลในวันหยุดยาวกันครับ
ใครสามารถทำวิธีไหนได้ก็ลองเลือกไปทำกันด้วยนะครับ ร้อนนี้จะได้อยู่เย็นกันสบายใจ อากาศร้อนก็อย่าใจร้อนตามอากาศนะครับชาวไอทีเมามันส์
Reference
- ไทยแชมป์! ร้อนสุดในอาเซียน 17-19 มี.ค. กรุงเทพอุณหภูมิสูง เหตุต้นไม้น้อย-ตึกเยอะ at sanook
- Suck It Heat Wave! at flickr by Guian Bolisay
- 13 วิธีคลายร้อนและ 13 วิธีดูแลสุขภาพรับมือลมร้อนซัมเมอร์นี้ at thaihealth