กสทช.เดินหน้าจับจริง 12 บริษัท ไม่รายงานการถือครองโทรศัพท์มือ

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

การถือครองโทรศัพท์มือ, โทรศัพท์มือ, กสทช., เอกสารปลอม

20 ส.ค. 55 ที่สำนักงานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า   กสทช.ได้ดำเนินการแจ้งความกับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ 12 บริษัท ประกอบด้วย  1. บริษัท ออเทค มาเก็ตติ้ง จำกัด 2.บริษัท ลอง เชียร์ คอมมิวเคชั่น จำกัด 3. บริษัท ไบโอเทค เทคโนโลยี จำกัด 4. บริษัท ไมโคเทเลตอม จำกัด  5. นายอริยะ บุพศิริ  6.บริษัท คูล คอมพิวเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด  7. บริษัท ดีโมบาย (ประเทศไทย) จำกัด 8.บริษัท ที.ซี.โมบาย เวิร์ค จำกัด  9. บริษัท ดีโมบาย  จำกัด  10. บริษัท เบสคิงส์ จำกัด 11 . บริษัท แอล บี แอล  (2004) และ 12. บริษัท สไมล์ โฟน (ประเทศไทย) จำกัด นายฐากร กล่าวว่าสาเหตุที่กสทช. ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากทั้ง 12 บริษัท ไม่ได้รายงานการถือครองโทรศัพท์มือถือว่าได้ทำลายหรือส่งออกนอกประเทศ รวมทั้งมีส่วนการรู้เห็นกับเอกสารเท็จเหล่านั้นหรือไม่  ตามประกาศ กสทช. เรื่องการเพิกถอนใบรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ 280 รุ่นที่ต้องชี้แจ้งกสทช.ภายใน 30 วัน สำหรับการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวนี้ กสทช .ได้ทำตามกระบวนการกฎหมาย และเมื่อ 1 เดือน ที่ผ่านมา กสทช. ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้ลิตและนำเข้าโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 27 บริษัท แต่มีเพียง 15 บริษัทที่ได้รายงานและส่งเอกสารเข้ามาชี้แจ้ง ซึ่งขณะนี้กสทช. อยุ่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและจะมีการพิจาณาว่าจะดำเนินคดีต่อหรือไม่ “ในเบื้องต้นการยื่นเอกสารเท็จเรื่องการนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมนั้น มีโทษระวางตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับ 1,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” นายฐากร กล่าว.

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This