คลังเผยยอดสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกว่า 1.2 พันล้าน

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

กระทรวง การคลัง ระบุว่า ตามที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต โดยการออกสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพื่อแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยจ่ายให้กับผู้ที่มีบัตรเครดิตและประวัติการชำระดี ตั้งแต่ 1-17 มิถุนายนนี้ พบว่ามีผู้มาขอยื่นขอสินเชื่อกับ 3 ธนาคารทั้ง 3 แห่ง 10,119 ราย รวมวงเงิน 1,265 ล้านบาท และมีการอนุมัติสินเชื่อแล้ว 1,126 ราย วงเงินประมาณ 122 ล้านบาท ทั้ง นี้การดำเนินโครงการสินเชื่อดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น จึงมีบางสาขาเข้าใจคลาดเคลื่อนในหลักการ และแนวทางปฏิบัติของโครงการ ทำให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพบางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ธนาคารในโครงการจึงร่วมมือกันหารือกันเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน รวมทั้งหาแนวทางแก้ปัญหาและอุปสรรค โดยมีข้อสรุปคือ ผู้ขอสินเชื่อที่มีสถานะสินเชื่อเป็นตามปกติ ข้อมูลเครดิตตั้งแต่ 30 เมษายนจนถึงวันที่ขอยื่นสามารถรีไฟแนนซ์วงเงินได้ไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งธนาคารจะพิจารณาจากเอกสารแจ้งยอดเงินเดือนสำหรับผู้ที่มีเงินเดือนประจำ รวมถึงการเคลื่อนไหวของเงินฝากและหลักฐานอื่นๆ และหากผู้ขอสินเชื่อมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และยอดหนี้เกิน 300,000 บาทก็จะมีสิทธิ์เลือกรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตบางใบได้ ส่วน กรณีผู้ขอสินเชื่อมีอายุเกิน 60 ปี ธนาคารอาจจะพิจารณาให้มีการค้ำประกันส่วนบุคคล และทั้ง 3 ธนาคารจะเร่งทำความเข้าใจในหลักการกับทุกสาขา ขณะเดียวกันธนาคารทั้ง 3 แห่งจะร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคล โดยจัดทำโครงการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบุคคลของผู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารจากนอน แบงก์ที่ไม่ใช่ธนาคารให้กับผู้ที่มีประวัติการชำระดี เพื่อให้โครงการลดภาระดอกเบี้ยครอบคลุมไปถึงประชาชนระดับฐานรากอย่างทั่วถึง ยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารจะเปิดตัวโครงการนี้ 24 มิถุนายนนี้ ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This