"ซีมาร์ต 2011" มีแต่กลิ่น?

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

ซีมาร์ต 2011 ถ้าคนไทย เรียกก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ไม่ค่อยจะมีเนื้อว่า”มีแต่กลิ่น” ฉะนั้นงานคอมมาร์ตครั้งล่าสุดในนาม”คอมมาร์ต ซีมาร์ต”ที่ไม่ค่อยมีสินค้าซีอีมาโชว์มากนักก็น่าจะเรียกว่ามีแต่กลิ่นได้ เหมือนกัน เรื่องนี้ต้องมองภาพย้อนไปตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯคุ้นเคยกับงานแฟร์ไอทีนาม”คอมมาร์ต”มานานเกือบทศวรรษ ภาพไทยมุงซื้อสินค้าไฮเทคลดแลกแจกแถมเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ศูนย์ประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ ความจำเจทำให้ “เออาร์ไอพี” พยายามพลิกคอมมาร์ตครั้งล่าสุดให้เป็น”คอมมาร์ต ซีมาร์ต”โดยมีเป้าหมายให้งานคอมมาร์ตเดินตามงานมหกรรมเทรดแฟร์สินค้า อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคระดับโลกอย่าง CES แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่ใกล้เคียง กลางปีที่แล้วคอมมาร์ตแปลงโฉมตัวเองจากการจำหน่ายสินค้าไอทีอย่างเดียว มาเป็นงานแสดงและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในชื่อ Comsumer Electronics Mart 2010 หรือ CEMART มาปีนี้ คอมมาร์ตตัดสินใจ”เหยียบเรือสองแคม”โดยวางจุดยืนงานให้เป็นงานที่รวมสินค้า ไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน กลายเป็นชื่องานคอมมาร์ต ซีมาร์ต ซึ่งผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ลงความเห็นว่ามองไปจะเห็นแต่สินค้าไอที สินค้ากลุ่มซีอีหรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภค (Comsumer Electronic : CE) ถูกนำมาโชว์เพียงน้อยนิด ทำให้ภาพรวมงานแทบไม่ต่างไปจากงานคอมมาร์ตดั้งเดิม “ปฐม อินทโรดม” กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ตให้เหตุผลว่า การรวมมิตรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และไอทีถือเป็นการยกระดับจากงานซีมาร์ตครั้ง ที่ผ่านมา โดยมองว่า ปัจจุบันสินค้าไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ประจำวันมนุษย์ ที่สามารถทำงานเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อ จึงตัดสินใจดึงสินค้าไอทีเข้ามาจัดแสดงด้วย “ในครั้งนี้เราได้เพิ่มพื้นที่การจัดงาน 100% บนเนื้อที่ 15,000 ตารางเมตร สำหน่ายสินค้าไอที 70% และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น” ปฐมยอมรับว่างานซีมาร์ตครั้งที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแรกของเออาร์ไอพี ซึ่งยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร มีผู้เข้าร่วมงานน้อยกว่าที่ตั้งไว้ ซึ่งคาดว่าผู้บริโภคยังมองว่างานแสดงที่เออาร์ไอพีจัดนั้นต้องเป็นงานขาย คอมพิวเตอร์เท่านั้น “ใจจริงเราอยากให้ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นึกถึงชื่อซีมาร์ต, รอซื้อสินค้ากับซีมาร์ต แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย” ตรงกับที่แหล่งข่าวในวงการผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารายหนึ่งซึ่งมองว่า งาน ซีมาร์ตเมื่อปีที่แล้วซึ่งเออาร์ไอพีลงมาจับตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ครั้ง แรกนั้นยังไม่สามารถทาบรัศมี “พาวเวอร์บายเอ็กซ์โป ” ของเซ็นทรัลหรือ “อิเล็กทรอนิกา” ในเครือเดอะมอลล์ได้ แหล่งข่าวจึงเชื่อว่าการตัดสิน ใจดึงสินค้าไอทีจากงานคอมมาร์ต ซึ่งเป็นชื่อเสียงหลักของเออาร์ไอพีมาร่วมแสดง เป็นการกระทำเพื่อหวังเรียกผู้บริโภคให้เข้ามาในงาน และเปลี่ยนชื่อเป็นคอมมาร์ต ซีมาร์ต แทนที่จะใช้ซีมาร์ตหากินเพียงอย่างเดียว พูดไปจะหาว่าใส่ความ ผู้เข้าร่วมงาน สามารถสังเกตเห็นชัดเจนว่าห้องจัดงานใหญ่อย่างเพนนารีฮอลล์ ที่น่าจะถูกตกแต่งไปด้วยโทรทัศน์ โฮมเธียเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเทคในครัวเรือนให้สมชื่อความเป็น”คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์” แต่กลับอัดแน่นไปด้วยเดสก์ท็อบ แล็ปท็อป เน็ตบุ๊ก รวมถึงนานาผลิตภัณฑ์เสริมตามระเบียบคอมมาร์ต ที่ก้ำกึ่งก็มีเพียงแท็บเล็ต ซึ่งเป็นสินค้าที่จะเป็นคอมพิวเตอร์ก็ไม่เชิง จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ไม่ใช่ งานนี้แท็บเล็ตกระแสแรงอย่างไอแพด 2 (iPad 2) กลายเป็นดาวเด่นในงานที่ช่วยให้ฮอลล์หลักดูคึกคัก โดย”ไอสตูดิโอ บาย เอสพีวี”ระบุว่านำไอแพด 2 มาวางจำหน่ายวันละ 100 เครื่อง ยังมี”โมโตโรล่า ซูม” แท็บเล็ตแบรนด์โมโตโรลาที่ฮาร์ดแวร์เฮาส์นำมาจำหน่ายในราคา 21,900 บาท (รุ่นที่เป็นไวไฟ ความจุ 32 กิกะไบต์) พร้อมใช้โปรโมชันผ่อนของบัตรเครดิตได้ด้วย ที่โซน C ซึ่งสามารถสร้างกระแสซีอีให้กับงานในระดับหนึ่ง พื้นที่โซน C เป็นจุดที่ผู้จัดงานระบุว่าเป็นพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาจากงานซีมาร์ตปีที่ แล้ว ณ วันนี้ถูกใช้เป็นที่ขายแอ็กเซสซอรี สำหรับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ และกล้องถ่ายรูปจากตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ ซึ่งดูแล้วไม่ต่างอะไรจากงานคอมมาร์ตในครั้งก่อน มุมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ซีอีนั้นกระจุกตัวที่ด้านข้างเพนนารีฮอลล์ ค่ายผู้ผลิตชั้นนำอย่างโซนี ซัมซุง และแอลจี นำแอลซีดีทีวี ทีวี 3 มิติ อินเทอร์เน็ตทีวี เครื่องเล่นดีวีดี และกล้องถ่ายภาพมาวางจำหน่ายพอหอมปากหอมคอ รวมถึงโทรศัพท์บ้านที่มีขายเป็นหย่อมๆ บริเวณด้านล่างของส่วนที่ขายอุปกรณ์เสริม นี่เองคือที่มาของคำว่า “เงาเครื่องใช้ไฟฟ้า!” เหลือแต่เงาเพราะใคร ปฏิเสธว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้คอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011 ไม่ได้มีความต่างไปจากงานคอมมาร์ทที่จัดขึ้นหัวปีท้ายปีคือผู้ค้าหรือเวน เดอร์ โดยผู้ประกอบรายหนึ่งยอมรับว่าไม่สนใจนำสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของตนมาเข้า ร่วมงาน แต่เลือกนำโน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปมาวางจำหน่ายแทน ว่าเป็นเพราะผู้ร่วมงานมีจำนวนน้อย โดยส่วนใหญ่หากจะซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผู้บริโภคมักจะรองานแฟร์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จัดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ต้องมาที่งานนี้ “สินค้าไอทีมันขายได้มากกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มองว่ามาที่นี่ต้องซื้อคอมพิวเตอร์มากกว่าจะเป็นเครื่องใช้ ไฟฟ้า ผู้จัดงานเขาโปรโมตน้อย มันคงยากที่จะแทนที่กันได้” นายปฐมยอมรับว่า ผู้จัดงานไม่สามารถ บังคับได้ว่าเวนเดอร์ต้องเอาสินค้าอิเลกทรอนิกส์มาขายภายในงานเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และไอทีมันถูกรวมกันอย่างแยกไม่ออก “เมื่อเราออกบูธให้เขา เขามีสิทธิจะเอาสินค้าอะไรในบริษัทมาขายก็ได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสินค้าไอทีมันมาแรงกว่าจริงๆ สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้คือการสร้างยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่เวน เดอร์ เพื่อให้เวนเดอร์เจ้าอื่นเห็นว่างานนี้มันขายได้จริงๆ โดยในช่วงแรกอาจต้องมีการดึงสินค้าไอทีมาช่วยเรียกความสนใจกับผู้เข้าร่วม งานก่อน จากนั้นค่อยๆ เอาสินค้าไอทีออกไป และเพิ่มจำนวนสินค้าอิเลกทรอนิกส์แทน เมื่อมีลูกค้ามาเดินมากขึ้น เวนเดอร์จะมองเห็นช่องทางการตลาด และให้ความสนใจมาร่วมงานมากขึ้น เมื่อการโปรโมตจากเวนเดอร์จะเยอะขึ้น ลูกค้าที่เข้าก็จะเยอะขึ้นด้วย” ปฐมมองว่า อาจต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี เพื่อให้ซีมาร์ตกลายเป็นงานขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของแท้ตามที่บริษัทหวังไว้ ซีมาร์ตจะถูกคอมมาร์ตกลืน? เมื่อถามปฐมว่าจะยอมปล่อยให้ซีมาร์ตถูกกลืนด้วยคอมมาร์ตหรือไม่ ปฐมกล่าวว่าคอมมาร์ตยังคงเป็นคอมมาร์ตอยู่ แต่ซีมาร์ตต้องดีขึ้นกว่าเดิม “สำหรับงานในครั้งต่อไป เราจะทำงานโปรโมตงานซีมาร์ตให้ลูกค้ามองเห็นถึงความเป็นอิเล็กทรอนิกส์มาก ขึ้น โดยวางแผนจะทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อในเครือเออาร์ไอพีมากขึ้น อีกทั้งได้มีการเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ในเครือ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มคอมซู เมอร์จริงๆ” ถึงวันนั้นคนไทยก็จะมีความรู้มากขึ้นอีกโข เครื่องใช้ไฟฟ้า

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This