ดอกเบี้ยขึ้น จะดีใจหรือเสียใจดี? ใครได้ ใครเสีย?

Must Read

ดอกเบี้ยขึ้น จะดีใจหรือเสียใจดี? ใครมีเงินฝาก ก็เตรียมเฮ ใครกู้บ้าน กู้แบงค์ ก็เกียบตัวสลบจริงหรือไม่ ใครอยากรู้ ตามมาหาคำตอบที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ดังนี้

  • ขณะที่ผู้ประกอบการมุ่งเน้นความสนในไปที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ 50%
  • โดยกรรมการ กนง. 3 ใน 7 คน มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25% ในการประชุมครั้งนี้ว่า เป็นการส่งสัญญาณต่อตลาดโดยตรงว่า หมดยุคดอกเบี้ยต่ำแล้ว และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอีกไม่ช้านี้ จากที่ขึงพืดดอกเบี้ยต่ำในระดับ 0.50% มาร่วม 2 ปี
  • และถ้า กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยมาเช่นเดียวกันในทันที หมายถึงว่า บรรดา พ่อค้า ประชาชน จะมีต้นทุนทางกการเงินเพิ่มขึ้นทันที จากปัจจุบันกู้เงินจ่ายดอกเบี้ยกันอยู่ในระดับ 5-7.5%
  • ใครที่เคยกู้เงินแล้วลอยตัวตามอัตรา MLR ไว้ จะมีภาระการจ่ายเพิ่มขึ้นทันที
  • อย่าบอกว่า เขาก็ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากด้วย เพราะในทางปฏิบัติและความเป็นจริงแห่งชีวิต สถาบันการเงินไม่มีทางขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเท่ากับการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อยู่แล้ว
  • ลองคิดแบบง่ายๆ เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดมีอยู่ราว 16,834,386 ล้านบาท ถ้าขึ้นดอกเบี้ยมาแค่ 25% ประชาชนจะมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 42,000 ล้านบาท
  • แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ยขึ้นมาในปีนี้ 1% ต้นทุนการจ่ายของฝั่งผู้กู้จะเพิ่มมาทันที 182,000 ล้านบาท นี่คิดแบบกลมๆ ง่ายๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงการเงินบ้านเรา ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน และเมื่อได้ทราบแล้ว คราวนี้ก็คงต้องมารอดูกันต่อไป ดอกเบี้ยฝาก จะขึ้นเท่าไหร่ ดอกเบี้ยกู้ จะปรับสูงเท่าไหร่

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This