ตามติด "Tablet" ขายดี สินค้าไอทีกับเทรนด์แห่งยุค!

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Tablet Best Seller ข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัย “ไอดีซี” คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายแทบเล็ตพุ่งขึ้นถึง 122.3 ล้านเครื่อง หรือเกือบ 2 เท่าตัวจากปีก่อนหน้า และคาดว่าจะยังคงมีทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อไปนี้คือคาดการณ์ทิศทางตลาดแทบเลตที่จะเกิดขึ้นในปี 2556 “ขนาด” ยังเป็นจุดขาย แทบเล็ตรุ่นใหญ่ เช่น ไอแพด จะยังคงครองความโดดเด่นในตลาดด้วยสัดส่วนราว 59% แต่จากคาดการณ์บริษัทวิจัย “ไอเอชเอส ไอซัพพลาย” ก็ยังเชื่อว่า แทบเล็ตรุ่นเล็ก หรือหน้าจอขนาดย่อมลงมา เช่น 7-8 นิ้ว จะเริ่มมีสัดส่วนในตลาดมากขึ้นจากที่คาดว่าครองส่วนแบ่งยอดจำหน่ายอยู่ต่ำกว่า 34 ล้านเครื่องในปี 2555 ซึ่งเพิ่มแบบก้าวกระโดดจาก 17 ล้านเครื่องเมื่อปี 2554 และเป็นที่เชื่อกันว่าตัวเลขยอดจำหน่ายจะพุ่งเป็น 2 เท่าตัวหรือกินแชร์อย่างน้อย 50% ของตลาดแทบเล็ตทั้งหมดในปีนี้ อย่างไรก็ตามแม้แทบเล็ตรุ่นเล็ก เช่น อะเมซอน คินเดิล ไฟร์ และนุุ๊ค เอชดี ของบาร์นส์ แอนด์ โนเบิลจะได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา แต่บิ๊กเซอร์ไพรซ์กว่าอาจตกเป็นของ “กูเกิล เน็กซัส7” ที่เปิดตัวตามหลังมาเมื่อเดือน มิ.ย.2555 ในกลุ่มแทบเล็ตรุ่นเล็ก โดยดูจากยอดจำหน่ายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หรือราว 1 ล้านเครื่องต่อเดือน แต่หากเทียบรัศมีกันแล้ว “เน็กซัส” ก็ยังมีส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบกับ “ไอแพด มินิ” ขนาด 7.9 นิ้วของแอ๊ปเปิ้ล ทั้งๆ ที่ราคาก็แพงกว่ามากในบรรดาแทบเล็ตที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แต่ไอแพด มินิก็ยังขายได้ราว 8 ล้านเครื่องหลังเปิดตัว 2 เดือนแรก และตามธรรมชาติของแอ๊ปเปิ้ลก็จะต้องตามมาด้วยข่าวลือของไอแพด มินิ รุ่นถัดไปที่จะมาพร้อมจอเรติน่าซึ่งเป็นไปได้ว่าไอแพด มินิ 2 จะเปิดตัวช่วงเดือน มี.ค.นี้ คำถามคือ เหตุใดแทบเล็ตรุ่นเล็กจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่รับเรื่องราคาที่ต่ำกว่าแทบเล็ตขนาดปกติ นายทอม ไมเนลลิ นักวิเคราะห์จากไอดีซี ให้ความเห็นว่า เพราะน้ำหนักที่เบากว่าและเหมาะสำหรับการถือด้วยมือเดียวและยังให้ความรู้สึกของอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าแทบเล็ตรุ่นปกติ ผลสำรวจของไอดีซียังชี้ให้เห็นว่า แทบเล็ตขนาดปกติ (10 นิ้ว) มักใช้กับเครือข่ายไวไฟภายในบ้าน ขณะที่แทบเล็ตไซส์เล็กกว่าสามารถถือพกพา หรือใส่กระเป๋าถือหรือแม้แต่กระเป๋าด้านในเสื้อคลุมได้ และยังใช้งานขณะเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่าด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ซึ่งก่อนหน้านี้ซีอีโอตำนานอย่าง “สตีฟ จ็อบส์” ของแอ๊ปเปิ้ลเคยกล่าวไว้ว่า แทบเล็ตขนาด 7 นิ้วเป็นรุ่นที่ “ใหญ่เกินไปที่จะแข่งกับสมาร์ทโฟน” แต่ขณะเดียวกันก็ “เล็กเกินไปที่จะแข่งกับตลาดของไอแพดเอง” แต่ผลก็ปรากฎว่าแทบเล็ตขนาด 7 นิ้วกลับเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการ “เงินไม่ถึง” ไม่ใช่ปัญหา จนถึงปีนี้ราคาของแทบเล็ตก็ยังไม่ถูกลงมาก โดยหากยึดราคา “ไอแพด” เป็นตัวตั้ง ไอแพดรุ่นปกติราคาต่ำที่สุดคือ 500 ดอลลาร์ (ราว 15,000 บาท) สำหรับไวไฟอย่างเดียว ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับทัชแพดของฮิวเลตต์-แพคการ์ดไปจนถึงแบล็คเบอร์รี่ เพลย์บุ๊ค และโมโตโรล่า ซูม แต่สำหรับตลาดแทบเล็ต 7 นิ้วที่เพิ่งเปิดตัว เช่น คินเดิล ไฟร์, เน็กซัส 7 และนุ๊ค เอชพี กำลังอยู่ในช่วงที่สงครามราคาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น โดยแทบเล็ต 7 นิ้ว ราคาราว 200 ดอลลาร์ (ราว 6,000 บาท) เป็นระดับที่ “กระตุ้นการซื้อ” ได้ดีมาก จนถึงตอนนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหากเทรนด์ดังกล่าวยังต่อเนื่องมาถึงปีนี้อาจจะได้เห็นราคาที่ต่ำลงมาอีกเนื่องจากจะเริ่มมีผู้เล่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแทบเล็ตขนาด 7 นิ้ว ทั้งนี้ เป็นไปได้ที่ “เอเซอร์” จะเป็นรายแรก โดยมีกระแสข่าวว่าจะเป็นรุ่น “ไอโคเนีย บี1” เฉพาะไวไฟ ราคาราว 99 ดอลลาร์ (3,000 บาท) แต่ก็เชื่อว่าแทบเล็ตรุ่นดังกล่าวจะทำเฉพาะบางตลาดเท่านั้น เช่น จีน ที่แข่งกันในระดับราคาที่ไม่แพง หรือแทบเล็ตโนเนมที่มีขายกราดเกลื่อนในประเทศช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่หาก “บี1” ได้รับการตอบรับที่ดีก็เป็นไปได้ที่จะเริ่มมีสัดส่วนในตลาดมากขึ้น แต่ระดับราคาดังกล่าวก็อาจจะเป็นตลาดแทบเล็ตที่เรียกว่า “หากเสียก็ทิ้งเลย” สำหรับให้เด็กนักเรียนใช้เรียนแบบโมบิลิตี้บ้างในบางโอกาสเท่านั้น “แอนดรอยด์” ขยายอาณาเขต ปี 2553 แอ๊ปเปิ้ลครองส่วนแบ่งในตลาดแทบเล็ตได้อย่างแข็งแกร่งถึง 87% แต่หลังจากการแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น สัดส่วนของแอ๊ปเปิ้ลก็เริ่มลดลงตั้งแต่นั้นมา โดย “ไอดีซี” ประเมินว่า ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดของแอ๊ปเปิ้ลถดถอยลงมาอยู่ที่ 53.8% ขณะที่แทบเล็ตแอนดรอยด์กลับมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 42.7% ด้วยแรงส่งจากรุ่นยอดฮิตทั้งเน็กซัส, คินเดิล ไฟร์ และนุ๊ค นอกจากนี้แผนการเปิดตัวแทบเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนจากนี้ “ซาเมียร์ ซิงฮ์” นักวิเคราะห์จากฟินวิสต้า แอดไวเซอร์ส์เชื่อว่า ปี 2556 จะเป็นปีที่แทบเล็ตบนแพลตฟอร์ม “ไอโอเอส” จะต้องเสียความโดดเด่นในตลาดให้แก่แพลตฟอร์มของหุ่นยนต์กระป๋องเขียว (แอนดรอยด์) ซึ่งเป็นการคาดการณ์จากยอดขายไอแพดที่ตกลงถึง 18% ในช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา เพราะส่วนใหญ่รอการเปิดตัวไอแพด มินิ และหลังจากที่สินค้าดังกล่าววางตลาดแล้วก็ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่ชัดเจนนักว่าสถานการณ์ปีนี้จะมีจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ อีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากไอโอเอสและแอนดรอยด์ “ม้ามืด” ที่อาจสร้างความสั่นสะเทือนให้วงการแทบเล็ตปีนี้มาแล้วนั่นคือ “วินโดว์ส” ไอดีซีคาดการณ์ว่า ภายในปี 2559 “ไอโอเอส” และ “แอนดรอยด์” จะครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ที่ 49.7% และ 39.7% ตามลำดับ แต่วาง “วินโดว์ส” ไว้ในฐานะคู่แข่งใหม่ในตลาดแทบเล็ตที่คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดราว 10.3% แม้ว่าจะมีแทบเล็ต “เซอร์เฟซ” ออกมาชิมลางตลาดก่อนแล้วโดยใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส อาร์ที ที่ออกแบบบนสถาปัตยกรรมอาร์มที่เกือบจะไม่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภค แต่ปี 2556 กับการเปิดตัว “เซอร์เฟซ โปร” ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 อย่างสมบูรณ์แบบก็ถูกคาดหวังว่าจะสร้างความสั่นสะเทือนให้ตลาดได้มากกว่า อย่างไรก็ตามแม้แทบเล็ต “แอนดรอยด์” จะชิงส่วนแบ่งตลาดแซงหน้าไอโอเอสได้ในปีนี้ แต่แอ๊ปเปิ้ลก็ยังจะขายไอแพดได้ถึง 58 ล้านเครื่องในปีงบประมาณ 2555 นำหน้าแทบเล็ตแอนดรอยด์ที่มียอดขายรวมจากผู้ผลิตทุกรายเป็นตัวเลขหลักเดียว ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า “ไอแพด” จะยังคงเป็นผู้นำตลาดในอนาคตอันใกล้นี้ “แทบเล็ต” แซงหน้าแลปท็อป เป็นเวลานับทศวรรษแล้วสำหรับการจะใช้คอมพิวเตอร์พกพาที่มีคุณสมบัติสูงๆ ซึ่งจะต้องแบกน้ำหนักที่มากตามไปด้วย แต่ด้วยแอพพลิเคชั่นที่มีบนแทบเล็ตและพัฒนาการของเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้แทบเล็ตมีความสามารถมากขึ้น จนถึงขั้นที่อาจทำให้แลปท็อปสูญเสียบัลลังก์ผู้นำในตลาดพีซีไปได้ โดยเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมานักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมพบว่า ในจำนวนบริษัทผู้ผลิตแลปท็อปรายใหญ่ทั้ง 9 รายมีเพียง 4 รายเท่านั้นคือ โซนี่, เอซุส, เลอโนโว และแอ๊ปเปิ้ลเท่านั้นที่คาดว่าปีนี้จะขายแลปท็อปได้มากกว่าปี 2555 โดยเฉพาะ “เลอโนโว” ที่ดูจะมั่นใจมากที่สุด คาดการณ์ยอดจำหน่ายแลปท็อปไว้ที่ 31 ล้านเครื่องจากปีก่อน 27 ล้านเครื่อง ส่วน “เดลล์” กลับมองว่ายอดขายจะตกลงเหลือเพียง 16 ล้านเครื่องในปีนี้จากปีก่อน 25.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ภาพรวมตลาดคาดว่ายอดขายแลปท็อปจะลดลงเหลือ 173.2 ล้านเครื่อง จากเดิม 187.4 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายแทบเล็ตในปีนี้จะสูงราว 172 ล้านเครื่อง

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This