ต้นทุนการผลิต iPhone 13 Pro ต่อเครื่องได้ถูกเผยออกมาแล้ว

Must Read

สวัสดีคอไอที และชาวไอโฟนทุกคน วันนี้เราจะมาเผยราคาต้นทุนชิ้นส่วนในการผลิต iPhone 13 Pro ต่อเครื่องให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน ใครอยากรู้ก็ตามมาดูกันเล้ยย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดังนี้

  • เร็วๆ นี้ทาง TechInsights ได้ทำการชำแหละตัวเครื่อง iPhone 13 Pro รุ่นความจุ 256GB ออกมา และได้เปิดเผยข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตัวเครื่องที่น่าสนใจออกมา
  • โดยมันได้เผยต้นทุนชิ้นส่วนในการผลิต iPhone 13 Pro อยู่ที่ 19,220 บาทต่อเครื่อง
  • และจากการชำแหละเครื่องพบว่า iPhone 13 Pro นี้มาพร้อมกับ RAM LPDDR4X 6GB ซึ่งเป็นแรมที่เวอร์ชั่นเก่ากว่าปัจจุบันเล็กน้อย โดยปัจจุบันเป็น LPDDR5 แล้ว
  • นอกจากนี้ชิป Apple A15 Bionic บน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro จะแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone 13 Pro จะมี GPU 5 Core ส่วน iPhone 13 จะมี GPU เพียง 4 Core และเลนส์ไวด์ของ iPhone 13 Pro มีขนาดพิกเซล 1.9µm ใหญ่กว่ารุ่นก่อนที่มีขนาดพิกเซล 1.4µm
  • ในส่วนของวัสดุและส่วนประกอบของ iPhone 13 Pro นั้น จะมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ $570 หรือราวๆ 19,220 บาทต่อเครื่อง ซึ่งมากกว่า iPhone 12 Pro ที่มีต้นทุนประมาณ $548 หรือราวๆ 18,500 บาท
  • ในส่วนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดจากชิปที่มีราคาแพงขึ้น, หน่วยความจำ NAND, ระบบหน้าจอแสดงผล แน่นอนว่ายังไม่ได้รวมมูลค่าอื่นๆ อาทิ ต้นทุนในการวิจัยและพัฒนา, การบริการ, และซอฟท์แวร์ต่างๆ
  • สำหรับราคาของ iPhone 13 Pro รุ่นความจุ 256GB นั้นมีราคาอยู่ที่ 42,900 บาท และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 8 ตุลาคมนี้

และนี่ก็คือข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ iPhone 13 ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อนะครับ

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This