ต้นปีนี้ Tesla Motor ได้ทะยานขึ้นเป็นบริษัทยานยนต์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงยานยนต์ โดยวันนี้เรามีข่าวที่น่าตื่นเต้นจะมาแจ้งให้ได้ทราบว่า บริษัท Tesla Motor ได้แซงหน้า Volkswagen AG กลายเป็นค่ายรถที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอันดับ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 20 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ลองมาดูกันเลยครับ 

ทำให้เครือรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก 8 อันดับแรกในปัจจุบันมีดังนี้

1. Toyota Motor – มูลค่า 7.11 ล้านล้านบาท

2. Tesla Inc – มูลค่า 3.14 ล้านล้านบาท

3. Volkswagen AG – มูลค่า 3.03 ล้านล้านบาท

4. Daimler AG – มูลค่า 1.63 ล้านล้านบาท

5. BMW – มูลค่า 1.55 ล้านล้านบาท

6. General Motors – มูลค่า 1.52 ล้านล้านบาท

7. Honda – มูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท

8. Ford – มูลค่า 1.09 ล้านล้านบาท

หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 มูลค่าของ Tesla ยังเป็นรอง Honda แต่มีหลายปัจจัยที่มูลค่าของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบไปด้วย

=> ไตรมาส 3 ของปี 2019 บริษัทพลิกกลับมาทำกำไรได้

=> การสร้าง Gigacfactory 3 ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนเสร็จอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 12 เดือน

=> การเปิดตัว Cybertruck ที่เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากและยอดจองขึ้นไปถึง 250,000 คัน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ทั้งบวกและลบก็ตาม

=> เตรียมจะส่งมอบ Model Y ที่เป็นรถตัวถังครอสโอเวอร์ที่คนฝั่งอเมริกากำลังนิยมกันมากในขณะนี้ในปีนี้

=> การประกาศแผนงานสร้าง Gigafactory 4 ที่เมืองเบอร์ลิน เยอรมนี ที่จะใช้สร้าง Model 3 และ Model Y ป้อนตลาดยุโรป ต่อจากโรงงานจีน

=> ยอดส่งมอบรถในควอเตอร์ที่ 4 ปี 2019 ทำได้ถึง 112,000 คัน มากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้

จากปัจจัยที่กล่าวไปทำให้อนาคตของ Tesla ดูสดใสขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้นสูง ซึ่งก็ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นค่ายรถที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 2 ของโลกนั่นเอง

ที่มา 1 

ที่มา 2 

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This