นิสสันเตรียมปรับลดขนาดขององค์กรครั้งใหญ่เพื่อความอยู่รอดหลังประสบวิกฤติสภาพคล่องอย่างหนัก

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับข่าวความเคลื่อนไหวในโลกแห่งยานยนต์ สำหรับครั้งนี้เรามีข่าวจะมาแจ้งหใ้เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบว่าทีมผู้บริหารของ Nissan Motor Co เห็นพ้องว่าบริษัทฯ ต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการลดขนาดองค์กรและปรับเป้ายอดขายลงเพื่อรับมือกับผลกำไรที่ถดถอยอย่างต่อเนื่องเพื่อพาบริษัทให้รอดพ้นจากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ 

สรุปแนวทางการลดขนาดองค์กรของนิสสันเพื่อความอยู่รอด สามารถสรุปได้ดังนี้ 

1. ยอดขายและผลกำไรของ Nissan หดตัวต่อเนื่องมานานหลายเดือนก่อนการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้ต้องมีการปรับแผนการปฏิบัติงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นปิดโรงงาน ปลดพนักงาน และล่าสุดปรับเป้าหมายยอดขายใหม่ดังกล่าว

2. หนึ่งในแผนการปรับโครงสร้างของ Nissan คือการหั่นเป้าหมายยอดขายลง 1 ล้านคันต่อปี โดยคาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2023 ยอดขายรถยนต์ Nissan จะลดเหลือไม่ถึง 5 ล้านคันต่อปี

3. ในยุครุ่งเรืองภายใต้การบริหารของอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงอย่างคาร์ลอส กอส์น Nissan มีเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ประมาณ 7-8 ล้านคัน ขณะที่ฮิโรโตะ ไซคาวะ อดีตซีอีโอคนก่อนหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 6 ล้านคัน

4. การปรับลดขนาดองค์กรจะส่งผลถึงโรงงานผลิตรถยนต์ Nissan หลายแห่งที่จะต้องปิดตัวลง รวมถึงพนักงานที่อาจต้องถูกเลย์ออฟเพิ่มเติม ขณะที่ผู้แทนจำหน่ายและบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน

อย่างไรก็ตามฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Nissan ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงข่าวการปรับลดองค์กร โดยระบุว่าจะแถลงรายละเอียดของแผนการปฏิบัติงานในระดับโกลเบิลในเดือนพฤษภาคมนี้ และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวจากบริษัทนิสสันที่ปัจจุบันอาการไม่ค่อยจะสู้ดีที่เราอยากจะแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเราก็ขอเอาใจช่วยให้นิสสันฟันฝ่าวิกฤติสภาพคล่องครั้งนี้ไปให้ได้นะครับ 

ที่มา: สำนักข่าว Reuters

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This