ปี 2019 ที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของค่าย Ferrari เพราะสามารถสร้างยอดขายได้มากที่สุดนับตั้งแต่เปิดบริษัทมา

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำกับเรื่องราวที่น่าสนใจในโลกยานยนต์ สำหรับข่าวสำคัญที่จะมาแจ้งให้ทราบในวันนี้ก็คือ Ferrari ประกาศผลประกอบการประจำปี 2019 ไฮไลท์อยู่ที่ยอดขายพุ่งกระฉูดไปแตะ 10,131 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ถึง 9.5% ซึ่งถือเป็นปีที่ค่ายประสบความสำเร็จอย่างงดงาม 

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ม้าลำพองที่สามารถทำยอดขายทะลุหลัก 10,000 คัน ขณะที่ผลประกอบการทางการเงินถือว่าน่าพอใจอย่างมาก โดยรายได้สุทธิอยู่ที่ 3.7 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10.1%

สรุปสถิติที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมา 

=> ตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ Ferrari คือ EMEA ประกอบด้วยยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา มียอดขาย 4,895 คัน ขยายตัวสูงขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปี 2018

=> ส่วนยอดขายในอเมริกาอยู่ที่ 2,900 คัน ปรับตัวลดลง 3%

=> ฝั่งเอเชียทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวันมียอดขาย 836 คัน เพิ่มขึ้น 20%

=> เอเชีย-แปซิฟิกมียอดขาย 1,500 คัน เติบโต 13%

=> จากตัวเลขทั้งหมด Ferrari ระบุว่ายอดขายรถขุมพลัง V8 เพิ่มขึ้น 11.2% ขณะที่รถเครื่องยนต์วี12 เติบโต 4.6%

=> Ferrari ระบุว่ารายได้จากการขายรถทั้งหมดในปี 2019 อยู่ที่ 2.926 พันล้านยูโร

=> อย่างไรก็ตาม ยังมีรายได้อื่น ๆ อย่างการสร้างแบรนด์และจากการสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์อีก 538 ล้านยูโร ตัวเลขทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4%

=> ในปี 2019 ที่ผ่านมา Ferrari เปิดตัวรถใหม่ถึง 5 รุ่น

=> ส่วนในปี 2020 การเปิดตัวรถใหม่จะมีจำนวนลดลง

=> รถที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือรถซูเปอร์เอสยูวี Purosangue ที่จะเปิดตัวในปี 2021 และไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ในปี 2022

 

ที่มา: เว็บไซต์ Motor1.com

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This