พามารู้จักโดรนสะเทินน้ำ-อากาศ จากญี่ปุ่นที่สามารถบินได้ และสำรวจใต้น้ำได้

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทุกคน วันนี้เราจะขอพาคุณมาดูบริษัทญี่ปุ่น อวดโฉม “โดรน 2 in 1” ใช้ได้ทั้งบนอากาศ และใต้น้ำ ตัวแรกของโลก ซึ่งมันจะมีความน่าสนใจอย่างไร ใครอยากรู้ ตามมาดูกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับโดรน 2 in 1 ตัวนี้ ได้ดังนี้

  • เมื่อไม่นานมานี้ KDDI Corporation บริษัทโทรคมนาคมของญี่ปุ่น ร่วมกับบริษัท Prodrone ผู้ผลิตโดรนเชิงพาณิชย์ และบริษัท QYSEA ผู้สร้างหุ่นยนต์ใต้น้ำ เพื่อสร้างโดรนเชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ที่สามารถบินบนอากาศ และดำลงไปใต้น้ำได้
  • โดยเปิดตัวพร้อมขึ้นบินโชว์ครั้งแรกที่สวนสนุก Hakkeijima Sea Paradise ในจังหวัดโยโกฮามะ ประเทศญี่ปุ่นซึ่งโครงการนี้ มีความคิดริเริ่มมาจาก KDDI ในการพยายามที่จะรวมเครือข่ายการสื่อสารเคลื่อนที่ขั้นสูง เข้ากับเทคโนโลยีโดรน ที่จะมีระยะทางและความยาวในการบินที่มากขึ้น ในขณะที่ยังบังคับโดรนได้
  • ส่วนจุดประสงค์ของโดรนสะเทินน้ำสะเทินอากาศ (Sea-Air Integrated Drone) นี้ จัดทำขึ้นมาเพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานทางอากาศ และการจัดการทางทะเลให้มีความทันสมัย, มีประสิทธิภาพ และสามารถลดกำลังคนได้มากขึ้น
  • โดยปกติแล้ว เราอาจคุ้นชิ้นกับโดรนบนอากาศอยู่แล้ว แต่เจ้าโดรนตัวนี้มีความพิเศษด้วยเทคโนโลยี “FIFISH PRO V6 PLUS ROV” ซึ่งเป็นโดรนใต้น้ำของบริษัท QYSEA เข้ามาทำให้สามารถทำงานใต้น้ำได้ด้วย
  • ทั้งนี้ ตัวโดรนจะสามารถทำงานจากระยะไกลเพื่อบินไปยังเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในทะเลและหลังจากลงจอดในตำแหน่งที่กำหนด เทคโนโลยีโดรนใต้น้ำ หรือ “FIFISH ROV” จะถูกปล่อยลงไปใต้น้ำ ด้วยการคอยควบคุมจากระยะไกล (Remote Control) ทำให้เราสามารถดำเนินการตรวจสอบ, บำรุงรักษา และซ่อมแซมอุปกรณ์ หรือเครื่องมือใต้น้ำได้
  • นอกจากนี้ โดรนยังสามารถส่งภาพแบบเรียลไทม์, เครื่องมือสุ่มตัวอย่าง, การวัดมาตรต่าง ๆ และเครื่องมือจัดการอื่น ๆ รวมถึงสามารถถ่ายทอดสดระหว่างการปฏิบัติงานสำหรับการทำงานร่วมกันหลายคนได้
  • คาดว่าโดรนตัวนี้จะมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมทางทะเล และสำหรับพลังงานลม (กังหันลม) นอกชายฝั่ง
  • ตัวโดรนยังสามารถตรวจสอบ และบำรุงรักษาโครงสร้างและฐานรากได้ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของมนุษย์ ที่ต้องเดินทางออกไปกลางทะเลได้อย่างมาก

นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่จำทำให้อุตสาหกรรมทางบกและทางทะเล มีความยั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากโดรนก็ใช้พลังงานน้อยกว่าการเดินเรือ หรือเครื่องบิน ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นอีกหนึ่งหนทางที่เข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ได้ รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงของคนที่ต้องไปปฏิบัติงานในพื้นที่นั้น ๆ ด้วยนั่นเอง

ที่มา 1 2

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This