พามารู้จัก เซ็นเซอร์ จิ๋วที่ตรวจจับตำแหน่งได้อย่างแม่นยำถึงระดับขยับน้อยกว่าเส้

Must Read

ใครที่อยู่ในสายวิจัยที่ต้องการทราบความก้าวล้ำของเทคโนโลยีตรวจจับตำแหน่งสมัยใหม่ต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เราจะพาคุณมารู้จักเซนเซอร์จิ๋วตัวใหม่ ตรวจจับได้แม้ขยับน้อยกว่าเส้นผม 100 เท่า ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีประโยชน์ต่อโครงการวิจัยและพัฒนามาก ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามอ่านกันเลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เป็นดังนี้

  • ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส (University of California, Davis: UC Davis) สร้างต้นแบบเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุขนาดเท่าเมล็ดงา แต่ว่ามีความสามารถในการตรวจจับตำแหน่งวัตถุที่เล็กกว่าเส้นผม 100 เท่า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสนอข้อได้เปรียบสำคัญที่มีต้นทุนการผลิตถูกลงและกินไฟน้อย

  • เซนเซอร์ดังกล่าวนั้นเป็นเซนเซอร์แบบซีมอส (CMOS: Complementary Metal–Oxide–Semiconductor) ซึ่งเป็นวงจรไฟฟ้าแบบหนึ่งที่ผลิตจากซิลิกอนและอะลูมิเนียม นิยมใช้ทำเป็นวงจรในระบบคอมพิวเตอร์ ตลอดจนเซนเซอร์รับภาพในกล้องแบบดิจิทัล ซึ่งทางทีมวิจัยได้ออกแบบแผงวงจรดังกล่าวให้สามารถขึ้นรูปเป็นเซนเซอร์ขนาดเท่าเมล็ดงา ทำหน้าที่ตรวจจับแบบเรดาร์จากการใช้คลื่นที่เรียกว่า “คลื่นมิลลิเมตร” (Millimeter-wave) ในการตรวจหาวัตถุ

  • “คลื่นมิลลิเมตร” (Millimeter-wave) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic wave) ที่มีความถี่คลื่นระหว่าง 30 – 300 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) ซึ่งเป็นย่านเดียวกันกับที่ใช้ส่งสัญญาณเครือข่าย 5G และสามารถใช้เป็นเรดาร์ (Radar) หรือระบบตรวจจับวัตถุจากคลื่นสะท้อนในระยะสั้นได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากคลื่นเป็นคลื่นกำลังสูง ทำให้การสะท้อนคลื่นจากวัตถุที่กระทบกลับมานั้นสามารถคำนวณได้ทั้งตำแหน่งและขนาดวัตถุ ดังนั้น ทีมนักวิจัยจึงนำหลักการนี้มาทำเป็นเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุได้สำเร็จ

  • อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติแล้วคลื่นมิลลิเมตรนั้นไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรอบมาก แม้สัญญาณรบกวน (Background Noise) ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอ่อน ๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ก็มีผลกับคลื่นมิลลิเมตร ซึ่งส่งผลให้การทำเซนเซอร์ด้วยคลื่นมิลลิเมตรก่อนหน้านี้เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากไม่มีวิธีเลือกอ่านค่าเฉพาะการเคลื่อนไหวที่ต้องการได้ อีกทั้งยังกินพลังงานไฟฟ้าในปริมาณที่ค่อนข้างสูง

  • ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบเซนเซอร์ เพื่อให้ตัวเซนเซอร์สามารถเลือกรับเฉพาะการเปลี่ยนแปลงจากวัตถุเป็นหลัก โดยไม่ถูกสัญญาณรบกวนในธรรมชาติมาทำให้การทำงานผิดเพี้ยน และเซนเซอร์ต้นแบบที่สร้างขึ้นมานั้นมีความละเอียดในการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของวัตถุ (Movement) แม้จะมีระยะที่เปลี่ยนไปน้อยกว่าเส้นผม 100 เท่า รวมถึงตรวจจับการสั่นไหว (Vibration) ที่มีคาบการสั่นเล็กกว่าความกว้างของเส้นผมได้ถึง 1,000 เท่า โดยมีต้นทุนโดยรวมที่ต่ำลงกว่าเดิม แต่ไม่ได้ระบุว่าต่ำกว่าเท่าไหร่ และใช้กำลังไฟเพียง 100 มิลลิวัตต์ (mW) เท่านั้น

  • โครงการดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการเกษตรยุคใหม่ เช่น การลดต้นทุนในการติดตามสถานะของน้ำที่อยู่ในต้นไม้แต่ละต้น สามารถติดตามได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง โดยการศึกษาและออกแบบในครั้งนี้ได้รับเงินทุนจากมูลนิธิเพื่อการวิจัยอาหารและการเกษตร หรือเอฟเอฟเออาร์ (Foundation for Food & Agriculture Research: FFAR) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการติดตามข้อมูลสุขภาพ หรือแม้แต่เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นอีกด้วย

  • ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการไออีอีอีด้านวงจรโซลิด-สเตท (IEEE Journal of Solid-State Circuits) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยนักวิจัยเชื่อว่าต้นแบบที่พิสูจน์หลักการ (Proof of Concept) นี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือเหนือกว่าเซนเซอร์ที่แม่นยำที่สุดในโลกในปัจจุบันอีกด้วย

และนี่ก็คือเซนเซอร์แบบ CMOS: Complementary Metal–Oxide–Semiconductor ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอเทคโนโลยีกันทุกคน และหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับการพัฒนาเซนเซอร์ตัวนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครโดยทันที

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This