รถยนต์ซีดานรุ่นใหญ่อย่าง Chevrolet Impala ได้ถอนตัวจากอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน วันนี้เรามาติดตามข่าวความเคลื่อนไหวจากค่ายยานยนต์ GM กันหน่อย เพราะเร็วๆ นี้เราได้ข่าวมาว่าทางค่ายได้ปิดฉากการผลิตรถยนต์ Chevrolet Impala ซึ่งตอนนี้ได้ถอนตัวตลาดรถซีดานขนาดใหญ่ในอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว 

รถยนต์ Chevrolet Impala  คันสุดท้ายคลอดออกจากโรงงานดีทรอยท์-แฮมแทร็มก์ในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่บริษัท General Motors (GM) ประกาศไว้ตั้งแต่ปลายปี 2018 ว่าจะยุติการทำตลาดรถยนต์นั่งหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Buick LaCrosse, Chevrolet Cruze, Chevrolet Volt, Cadillac CT6, Cadillac XTS รวมถึง Chevrolet Impala ที่เป็นโมเดลล่าสุดที่หยุดจัดจำหน่ายในปีนี้

ที่ผ่านมา Impala ทำผลงานได้ปานกลาง โดยในปี 2007 เคยทำตัวเลขยอดขายได้ถึง 311,128 คันในสหรัฐอเมริกา แต่พอถึงปี 2013 ตัวเลขก็ลดลงเหลือ 156,797 คันและในปี 2017 หดตัวเหลือเพียง 75,877 คัน ก่อนที่ในปี 2019 ยอดขายจะเหลือไม่ถึง 45,000 คัน

Impala รุ่นปัจจุบันที่นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 10 ไม่ได้มีความโดดเด่นเหมือนกับเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า

ถึงแม้จะได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าและสื่อมวลชนในด้านรูปลักษณ์และการขับขี่ แต่เซกเมนท์รถซีดานขนาดใหญ่ในแดนมะกันถดถอยอย่างต่อเนื่องทำให้ยอดขายไม่เป็นที่น่าพึงพอใจในระยะหลัง

ถึงแม้ในเซกเมนท์นี้ Impala และ Ford Taurus จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ลูกค้าก็ยังมี Chrysler 300 และ Dodge Charger ให้เลือกสรร รวมถึงรถสัญชาติเอเชียอย่าง Nissan Maxima, Kia Cadenza และ Toyota Avalon อีกด้วย

เมื่อ Impala คันสุดท้ายออกจากสายการผลิต GM จะหันไปปรับปรุงโรงงานดีทรอยท์-แฮมแทร็มก์แห่งนี้ใหม่เพื่อรองรับการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า หนึ่งในนั้นคือ GMC Hummer EV รถกระบะพลังงานไฟฟ้าที่มีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ และออกจำหน่ายในช่วงกลางปีหน้า

 

ที่มา: เว็บไซต์ Carscoops.com

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This