รถยนต์ Volkswagen ID Buzz EV เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว

Must Read

สวัสดีคอยานยนต์ และชาวโฟล์คสวาเก้นทุกคน วันนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า รถยนต์ Volkswagen ID Buzz EV เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ใครสนใจก็ตามมาดูรายละเอียดที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปข่าวอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับรถยนต์ Volkswagen ID Buzz EV ได้ดังนี้

  • อดีตอันหอมหวานกลับมาอีกครั้ง เมื่อบริษัท Volkswagen ได้เปิดตัวโมเดลใหม่อย่าง ID Buzz EV รถตู้ในตำนาน ที่กลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยขึ้น พร้อมกับฟีเตอร์ต่างๆ และคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยการใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้า แทนที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมกับนิยามที่ทันสมัย “new face of sustainability mobility”
  • ย้อนกลับไปในปี 2017 Volkswagen ได้นำเสนอ ID Buzz ในรูปแบบของรถยนต์แนวคิดมาก่อน ภายใต้รหัส T1 และเมื่อเราเปรียบเทียบตัวรถแนวคิดกับรุ่นผลิตจริงก็พบว่า มันมีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดยรวมแผงหน้าปัดด้านหน้ามีความล้ำสมัยน้อยกว่า โดยหลักการออกแบบนั้น ลำตัวของรถจะมีขนาดที่สั้น ซึ่งส่งผลให้ตัวรถมีขนาดที่กระทัดรัด โดยตัวรถจะมีความยาวฐานล้อ 4,712 มิลลิเมตร
  • ในส่วนของขุมกำลังนั้น แน่นอนว่าเมื่อเลือกใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าแทนที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน ทำให้ตัวรถลดพื้นที่ของห้องเครื่องไปได้ ซึ่งทำให้ตัวรถสามารถรักษารูปทรงกล่องไว้ได้ การตกแต่งแบบทูโทนซึ่งครอบคลุมส่วนต่างๆ ระบบไฟรอบคันจะเป็นแบบ LED ที่ดูทันสมัย เช่นเดียวกับไฟท้ายที่มีความยาวเชื่อมต่อจากอีกฝั่งไปยังอีกฝั่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ VW ที่ใช้ไฟท้ายในลักษณะนี้
  • ภายในห้องโดยสารค่อนข้างโปร่ง ด้วยรูปแบบของแพลตฟอร์ม MEB โดยจะมีเบาะนั่งแบบ 5 ที่นั่งแบ่งออกเป็นสองแถว โดยแถวแรกจะมีเบาะนั่งแบบคู่พร้อมที่วางแขนปรับได้ มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้าง ในพนักพิง ในเบาะคนขับยังมีถุงลมนิรภัยตรงกลางชุดใหม่อีกด้วย เบาะนั่งด้านหน้าแต่ละที่นั่งสามารถปรับไปข้างหน้าและด้านหลังได้สูงสุด 245 มิลลิเมตร ส่วนที่นั่งแถวที่สองจะเป็นแบบ 3 ที่นั่ง
  • ทั้งนี้ยังมีตัวเลือกแบบ 6 ที่นั่ง โดยจะแบ่งเป็นแถวที่นั่ง 3 แถว โดยจะวางเบาะนั่งแบบเดี่ยว แถวล่ะคู่ และจะมีแบบ 7 ที่นั่ง โดยจะเป็นที่นั่งแบบ 3 แถว โดยจะแบ่งที่นั่งออกแบบ 2-3-2 โดยรุ่น 7 ที่นั่งนี้ จะมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นมาตรฐานเล็กน้อย โดยจะยังคงพื้นที่เก็บของด้านหลังที่มากถึง 1,121 ลิตรเท่ากันในทุกๆ รูปแบบจำนวนที่นั่งและระยะฐานล้อที่แตกต่างกัน
  • ในส่วนของคนขับนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Dashboard ขนาด 10 นิ้ว แบบมาตรฐานให้ข้อมูลหลักเกี่ยวกับตัวรถ ในขณะที่จอแสดงผลอีกจอบนคอนโซลกลางใช้สำหรับฟังก์ชั่นสาระบันเทิง ตัวเลือกมาตรฐานคือหน้าจอขนาด 10 นิ้ว และตัวเลือกขนาด 12 นิ้ว โดยที่จอแสดงผลสาระบันเทิงจะเป็นแบบลอยตัว พร้อมระบบควบคุม HVAC เป็นมาตรฐาน
  • ในขณะที่ขุมกำลังนั้นจะได้มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาด 0 kWh โดยมีความสามารถให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ซึ่งสามารถเทียบได้กับ VW ID.4 รถยนต์ SUV ไฟฟ้ารุ่นปัจจุบันของทางค่าย แต่ทางผู้ผลิตเองยังไม่มีการประกาศระยะในการวิ่งต่อการชาร์จไฟหนึ่งรอบ รวมไปถึงรุ่นที่จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ณ ตอนนี้
  • ในส่วนของการชาร์จไฟนั้น กำลังการชาร์จสูงสุดเมื่อเสียบเข้ากับสถานีไฟฟ้ากระแสสลับคือ 0 กิโลวัตต์ ในขณะที่ขั้วต่อ CCS ที่สถานีไฟฟ้ากระแสตรงช่วยให้มีอัตราการชาร์จสูงถึง 170.0 กิโลวัตต์ การชาร์จจาก 5 ถึง 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที บนสถานี Fast Charge และคุณสมบัติพิเศษที่ตัวรถ สามารถจ่ายกระแสไฟชั่วคราวให้กับตัวบ้านได้เมื่อเกิดกรณีไฟฟ้าดับ

ทั้งนี้ Volkswagen ID Buzz EV จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปช่วงไตรมาสที่สามของปี 2022 และจะเข้าสู่ตลาดรถยนต์อเมริกาในช่วงท้ายปี 2022 หรืออย่างช้าที่สุดก่อนสิ้นไตรมาสแรกของปี 2023 โดยทางผู้ผลิตยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการของตัวรถ โดยสื่อจากต่างประเทศคาดกันว่าราคาจะออกมาในช่วงเดือนมิถุนายน ก่อนจะเปิดให้จองล่วงหน้าอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ส่วนมันจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้นก็คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This