สวัสดีคอไอทีทุกคน ครั้งนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุดงานวิจัยเผย หน่วยความจำ SSD ทำให้ “โลกร้อน” มากกว่า HDD ถึง 2 เท่า ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเอสเอสดี (SSD – Solid-State Drive) ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถทำงานได้รวดเร็วกว่าอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่างฮาร์ดดิสก์ (HDD – Hard Disk Drive) และใช้พลังงานน้อยกว่าในขณะทำงาน ส่งผลให้หลายบริษัทต่างหันมาผลิตเอสเอสดีให้ทันต่อความต้องการของผู้ใช้งาน
- อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในโรงงานผลิตเอสเอสดี ปรากฏว่าในกระบวนการผลิตเอสเอสดีนั้น กลับปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากกว่าฮาร์ดดิสก์ถึง 2 เท่า
- สาเหตุหลักที่ทำให้การผลิตเอสเอสดีปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมาก เนื่องจากเอสเอสดียุคใหม่จะมีการเพิ่มชิปทั้งชนิด NAND (ชิปหน่วยความจำหลัก), DRAM (ชิปหน่วยความของแรม ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน) และคอนโทลเลอร์ (สำหรับควบคุมการเข้าออกของข้อมูล) รวมถึงเทคโนโลยีในการนำชิปหน่วยความจำ NAND มาซ้อนกันเพื่อเพิ่มความจุ ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิตเพิ่มขึ้น และพลังงานที่ใช้ส่วนใหญ่พึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล จึงปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพิ่มขึ้นในระหว่างการผลิตด้วย
- นอกจากนี้ เนื่องจากเอสเอสดีเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ยค่อนข้างสั้นกว่าฮาร์ดดิสก์ เป็นผลทางอ้อมให้มีการผลิตเอสเอสดีเพิ่มขึ้นให้ทันความต้องการของผู้ใช้งาน
- ทั้งนี้ แม้ในแง่ของกระบวนการผลิตเอสเอสดีอาจใช้พลังงานและปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามาก แต่งานวิจัยนี้อาจจะขาดในส่วนของการติดตามผลระยะยาว เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบการใช้งานพลังงานของเอสเอสดีและฮาร์ดดิสก์ขณะทำงานแล้ว ฮาร์ดดิสก์กลับใช้พลังงานมากกว่าเอสเอสดีเกือบ 4 เท่า รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจัดจำหน่าย เช่น การบรรจุหีบห่อ, การขนส่ง และอื่น ๆ อีกมากมายก็สามารถนำมาพิจารณาร่วมในการประเมินเรื่องการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้เช่นกัน
- สำหรับในสถานการณ์ดังกล่าว นักวิจัยได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการช่วยลดการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต ผู้ผลิตอาจจะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เพื่อลดการผลัดเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ของผู้ใช้ หรืออาจเลือกใช้พลังงานทางเลือกอื่น ๆ เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลลงนั่นเอง
- เกร็ดความรู้: ฮาร์ดดิสก์ คือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในจานแม่เหล็กและอ่านผ่านหัวอ่านที่ติดอยู่ด้านบน ในขณะทำงานจานแม่เหล็กจะเกิดการหมุนไปด้วย ซึ่งการเคลื่อนไหวของจานแม่เหล็กนี้ทำให้ฮาร์ดดิสก์ทำงานได้ช้า เพราะต้องรอให้จานหมุนมาอยู่ในจุดที่เป็นชุดข้อมูลที่ต้องการใช้งาน ในขณะที่เอสเอสดีจะประกอบด้วยชิปหน่วยความจำที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ (Non-volatile memory) สามารถอ่านเขียนผ่านวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยตรง ข้อมูลจึงส่งผ่านได้ดีและรวดเร็วกว่า นอกจากนี้ เนื่องจากเอสเอสดีไม่มีชิ้นส่วนที่ขยับได้เหมือนฮาร์ดดิสก์ เมื่อเกิดการกระแทกจึงไม่ค่อยเกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนเก็บข้อมูลเหมือนในฮาร์ดดิสก์
หากเปรียบเทียบอัตราการปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต ของอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบคอมพิวเตอร์ขึ้นมา 1 เครื่อง จะพบว่าการผลิตอุปกรณ์แต่ละชิ้นจะมีสัดส่วนการปล่อยแก๊สดังนี้
- เอสเอสดี คิดเป็นร้อยละ 38
-
ฮาร์ดดิสก์ คิดเป็นร้อยละ 9
-
การ์ดจอ คิดเป็นร้อยละ 11
-
ซีพียู คิดเป็นร้อยละ 4
-
เมนบอร์ด คิดเป็นร้อยละ 17
-
แรม คิดเป็นร้อยละ 9
-
เพาเวอร์ซัพพลาย (อุปกรณ์จ่ายไฟ) คิดเป็นร้อยละ 4
-
เคสภายนอก คิดเป็นร้อยละ 6
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงไอทีที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคน และหากมีเรื่องราวที่น่าสนใจเช่นนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที