สิทธิบัตรจอแสดงผลใหม่ของ Samsung สามารถปรับอัตราการรีเฟรชให้แตกต่างกันตามพื้นที่

Must Read

ชาวซัมซุงทุกคนโปรดทราบ ครั้งนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า ล่าสุด Samsung ได้รับสิทธิบัตรจอแสดงผลใหม่ สามารถปรับอัตราการรีเฟรชให้แตกต่างกันตามพื้นที่ บนหน้าจอเดียวกันได้ ใครสนใจก็ตามมาดูรายละเอียดที่ด้านล่างนี้เลย

สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิทธิบัตรหน้าจอใหม่ตัวนี้ ได้ดังนี้

  • Samsung ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรฉบับใหม่เกี่ยวกับ Variable Refresh Rate หรือ อัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบไดนามิก ซึ่งปกติแล้วจะช่วยให้จอแสดงผล สามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้ตั้งแต่ 1Hz ขึ้นไป จนสูงสุดที่หน้าจอรองรับ อย่างเช่นจอแสดงผลของ Galaxy S22 Ultra รองรับอัตราการรีเฟรชในช่วง 1 – 120Hz ขึ้นอยู่กับคอนเท้นต์ที่กำลังรับชม
  • อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอในปัจจุบัน จะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหน้าจอพร้อมกัน แต่สิทธิบัตรใหม่ของ Samsung ได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใช้งานสามารถปรับอัตราการรีเฟรชโดยแบ่งพื้นที่หน้าจอได้ ตามภาพประกอบ จะเห็นว่าหน้าจอเดียวกัน ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน โดยแต่ละส่วนใช้อัตราการรีเฟรชที่แตกต่างกัน
  • หมายความว่า ถ้าหากมีการใช้อัตราการรีเฟรช 120Hz แค่เพียงบางส่วน ก็จะช่วยให้อุปกรณ์ประหยัดแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้อัตราการรีเฟรช 120Hz เต็มพื้นที่ทั้งหน้าจอ
  • ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานสามารถแบ่งหน้าจอออกมา 2 หรือ 3 หน้าต่าง โดยหน้าต่างขนาดเล็กใช้สำหรับอ่านข้อความด้วยอัตราการรีเฟรช 30Hz ส่วนหน้าต่างขนาดใหญ่ใช้สำหรับเล่นเกมอัตราการรีเฟรช 120Hz

ทั้งหมดนี้ ยังเป็นเพียงเทคโนโลยีในสิทธิบัตรเท่านั้น ซึ่งทาง Samsung ยื่นจดไว้ตั้งแต่ต้นปี 2021 แต่ได้รับการอนุมัติเมื่อไม่นานมานี้ จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะถูกนำมาใช้งานกับผลิตภัณฑ์จริงในช่วงเวลาใด ดังนั้นหากมีข่าวความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับการใช้งานสิทธิบัตรตัวนี้ เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This