หลายชีวิตตอน ละม่อม ละครชวนคนไทยตั้งคำถามว่า จริงหรือไม่ ที่ พ่อแม่ทุกคน คือพระในบ้าน

Must Read

หลายชีวิต คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เล่าเรื่องราวแต่หนหลังของหลายชีวิตที่มีที่มา ที่ไปแตกต่างกัน คนละวัย คนละเพศ คนละอาชีพ แต่มาจมลงพร้อมกัน ณ สถานที่เดียวกัน อาการอย่างเดียวกันและเวลาเดียวกัน และเสียชีวิตไปด้วยกัน

ซึ่งตอนละม่อมนี้ คืออีกตอนนึง ที่ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ได้แสดงความคิดหัวก้าวหน้า ในการสะท้อนแนวคิดอีกด้านที่แตกต่างออกไปว่า พ่อแม่ทุกคนคือพระในบ้าน ที่รักลูก ไม่เคยทำผิดต่อลูก จนลูกทุกคนต้องกตัญญูต่อพ่อ แม่ แบบไม่มีเหตุผลรึเปล่า

ละครหลายชีวิตเป็นเรื่องราวในชีวิตของหญิงสาว ที่ชื่อละม่อมที่อาศัยอยู่กับแม่ ชื่อ ลมุล เพียงสองคน เนื่องจากพ่อของละม่อมเสียชีวิตตั้งแต่ละม่อมยังเด็ก

แม่ของละม่อมเป็นแม่ที่ไม่มีคุณสมบัติความเป็นแม่ที่ดี เป็นโรคติดสุราขั้นรุนแรง วันๆเอาแต่กินเหล้า ไม่คิดจะทำมาหากิน คอยแต่จะให้ละม่อมคอยทำงานหาเงิน เลี้ยงดูคอยซื้อเหล้าให้ตัวเองแต่เพียงฝ่ายเดียว

จนวันหนึ่งละม่อมมีคนรัก ชื่อ สนิท ที่เป็นลูกค้าประจำที่ร้านตัดเสื้อของละม่อม ทำให้นางลมุล แม่ละม่อม ที่ไม่มีความเป็นแม่ มีแต่ความเห็นแก่ตัว กลัวว่า ถ้าละม่อมมีแฟนแต่งงานมีครอบครัว จะทิ้งตัวเองไป ตัวเองจะไม่ได้เกาะลูกกินเหมือนปรสิต ที่ได้แต่พึ่งพาอาศัยสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอีกต่อไป

จึงกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้ละม่อมได้คบหาดูใจกับสนิท
นางลมุล จึงมักด่าละม่อมว่า เป็นคนเลวชอบให้ท่าผู้ชาย
ถ้าคบกับคนจนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบสนิท จะท้องไม่มีพ่อ ทำให้แม่ต้องอับอายชาวบ้าน จนละม่อมต้องทนกับการที่แม่กดดัน ด่าว่าในเรื่องนี้ตลอดเวลา

จนวันหนึ่งสนิทได้มาบอกลาละม่อม เพื่อที่จะไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะสนิทรู้ตัวเองว่า ตอนนี้ฐานะตัวเองยังไม่ดีพอที่จะแต่งงานกับละม่อม จึงขอไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้ตั้งตัวให้ได้สักที ก่อนไปสนิทสัญญาว่า ถ้ามีข่าวอะไรที่กรุงเทพฯ จะเขียนจดหมายส่งข่าวมาถึงละม่อม

แต่ละม่อมเฝ้ารอเป็นเวลานาน ก็ไม่ได้รับจนหมายจากสนิทสักที จนวันหนึ่งละม่อมไปที่ห้องของแม่ และได้พบว่าแม่ของตัวเอง ได้ซ่อนจดหมายของสนิทเอาไว้ เพราะกลัวว่าถ้าละม่อมจากไปแต่งงานกับสนิท ตัวเองจะไม่มีลูกสาวคอยอยู่ ให้ตัวเองคอยสูบเลือดสูบเนื้ออีกต่อไป

ต่อมาลมุลได้เข้ามาที่ห้อง และเห็นว่าละม่อมได้พบจดหมาย และได้รู้ความจริงแล้ว ว่าตัวเองเป็นคนทำให้ละม่อมไม่ได้ ติดต่อกับสนิท ลมุลจึงคิดจะใช้มุขเดิมๆ เรื่องความกตัญญู เพื่อด่าว่า กดดันละม่อมอีก

แต่คราวนี้ความอดทนของละม่อมได้สิ้นสุดลงแล้ว ความรู้สึกของ ละม่อมตอนนี้จึงเปรียบเสมือนกับระเบิดเวลา ที่ถึงเวลาที่ต้องระเบิดใส่แม่ให้ตายคาที่

ละม่อมจึงได้ทำการฆ่าแม่แท้ๆ ของตัวเองตาย โดยไม่คิดว่าตัวเองได้ทำมาตุฆาต อันเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่สุด แต่กลับคิดว่าตัวเองได้ทำการกำจัดปรสิต ที่คอยเกาะกินทำลายชีวิต ให้ออกไปจากชีวิตได้สักที

ละม่อมได้บอกกับทุกคนว่า เพราะลมุลกินเหล้า และพอเมาหลับไป พอละม่อมจะไปปลุก ก็ปลุกแม่ไม่ตื่น มารู้ภายหลังว่า แม่ได้ เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาละม่อมได้รู้ข่าวว่า สนิทได้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว เพราะสนิทส่งจดหมายมาหา และละม่อมไม่ได้ตอบจดหมายสักที สนิทเลยไปแต่งงานกับคนอื่นแทน สร้างความเสียใจให้กับละม่อมเป็นอย่างมาก

ละม่อมจึงตัดสินใจที่จะขายบ้าน ขายทรัพย์สินทั้งหมด และนำเงินไปหางาน สร้างชีวิตใหม่ที่กรุงเทพฯ แต่สุดท้ายละม่อมก็ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตพร้อมกันกับอีกหลายชีวิต ที่ต่างก็มีชีวิตที่ต่างกัน ต่างมีกรรมเป็นของตัวเอง

ละม่อมเอง แม้จะตัดสินไม่ได้ว่าตัวเองทำถูกจริงเหรอ แม้มองไม่เห็นว่าควรจะเป็นทางไหน รู้แต่ว่าลงเรือไปก่อน…“ใครจะวินิจฉัยได้ถูกว่า เป็นบุญหรือเป็นกรรมของละม่อม เมื่อเรือลำนั้นล่มลง ทำให้ชีวิตอันว่างเปล่า ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของละม่อมนั้น อันตรธานไปท่ามกลางเสียงฝนกระหน่ำและเสียงพายุที่พัดโหมอยู่อย่างน่ากลัวในความมืด”

ซึ่งจากการรับชมละครเรื่องนี้ ผู้เขียนคิดว่า ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ มีความคิดหัวก้าวหน้า เป็นอย่างมาก ที่มีการพูดถึงความเชื่อเรื่องความกตัญญูแบบไทยๆ ว่าพ่อแม่ทุกคนคือพระในบ้าน แค่ทำให้เราเกิดมาก็มีบุณคุณอันใหญ่หลวง ถึงพ่อแม่จะ เลวแค่ไหน ลูกก็ต้องทำดี ตอบแทนบุญคุณพ่อ แม่

ทำให้บางที่แนวคิดนี้ก็ เหมือนกับดาบสองคม ที่กลับมาทิ่มแทงลูกให้ตายเพราะติดกับดัก ของคำว่าความกตัญญู
เพราะบางทีอาจจะมีกรณีพ่อ แม่ ทำร้ายลูกแบบที่นาง ลมุล ทำกับละม่อม

ที่ไม่คิดจะทำมาหากิน อะไรเพราะอ้างว่า ลูกต้องมีความกตัญญู ทำงานหาเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ฝ่ายเดียว ไม่ยอมให้ลูกมีชีวิตเป็นของตัวเอง พอลูกจะมีแฟนแต่งงาน ก็ห้ามลูกแต่งงาน เพราะกลัวลูกจะไม่อยู่เลี้ยงดูตัวเองตลอดเวลา
พอพ่อแม่ตาย ลูกก็ตกยากเพราะแก่เกินกว่าที่จะทำงานแล้ว

เทรนในปัจจุบันที่คนสมัยนี้ชอบพูดกันว่า ลูกไม่ได้ขอมาเกิดส่วนนึงก็ถูก เพราะพ่อแม่ เป็นคนที่เลือกที่จะมีลูกเอง ดังนั้นก่อนที่จะมีลูกควรจะเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะมีลูก ไม่ใช่ตัวเองไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อแม่คน แต่หวังที่จะมีลูกเพื่อที่จะให้มารับใช้ตัวเองฝ่ายเดียว

ผู้เขียนคิดว่า ความกตัญญูเป็นสิ่งดีงาม แต่ควรมาจากการที่พ่อแม่ ต้องสร้างบุญคุณให้ความรัก เลี้ยงดูลูก เป็นอย่างดีก่อน

ไม่ใช่ไม่เคยทำดีกับลูก แต่มาอ้างบุญคุณ กรอกหูใส่ลูกทุกวันว่า เพราะมีลูกทำให้แม่ลำบาก ดั้งนั้นลูกต้องคอยอยู่ตอบแทนพระคุณแม่ตลอดเวลา ทั้งชีวิตนี้ห้ามไปไหนแบบที่นางลมุลทำกับละม่อม ทำให้ลูกหมดความอดทน ที่พ่อแม่ ทำร้ายลูกตลอดเวลา ลูกจึงกลับมาทำร้ายพ่อแม่ ในภายหลัง

บุญคุณของพ่อแม่ มาจากการเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ไม่ใช่มาจากการให้กำเนิดเพียงอย่างเดียว มิฉะนั้นถ้าใครที่ฟันกันแล้วทิ้ง มีลูกเป็น10คนแต่ ทิ้งลูกทุกคนไปตั้งแต่เกิด ไม่เคยดูแลลูก พอลูกทั้ง10คนเติบโต ทำงานมีเงินพ่อแม่ กลับมาทวงบุญคุณว่า ฉันทิังเธอไปตั้งแต่เกิด เธอต้องตอบแทนบุญคุณฉัน ก็คงเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปแล้ว

คำว่า กตัญญู จริงๆ แล้ว หมายถึง (กะตัน-)น. (ผู้) รู้อุปการะที่ท่านทําให้ (ผู้) รู้คุณท่าน เป็นคําคู่กันกับ กตเวที. [ป. กต ว่า (อุปการคุณ) ที่ท่านทําแล้ว + ญู ว่า ผู้รู้].

ซึ่งก็คือการที่จะให้ลูกมาตอบแทนพระคุณ ควรเริ่มจากการที่พ่อแม่ คือผู้ให้สิ่งดีๆแก่ลูกด้วยใจที่บริสุทธิ์ก่อน แล้วลูกจะสำนึกบุญคุณในภายหลังเอง

ดังนั้นถ้าอยากให้ลูกเคารพตัวเอง เหมือนกับเป็นพระในบ้าน บุคคลที่เป็น พ่อแม่ ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูก ดำรงตนให้ถึงพร้อมด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ตามแบบที่พระพุทธเจ้าสอน ถ้าลูกเห็นพ่อแม่ เป็นตัวอย่างที่ดี ถึงจะไม่ได้บังคับให้ลูกกตัญญูต่อพ่อแม่ ลูกก็จะมีจิตสำนึก กตัญญูต่อพ่อแม่เองในภายภาคหน้า

เครดิตข้อมูลจาก
https://youtube.com/playlist?list=PL3A661875B0F0DEB4

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This