สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน วันนี้เรามีข่าวดีจะมาแจ้งให้ทราบว่า หูฟัง Jabra บุกไทยแล้ว โดยมาพร้อมกัน 3 รุ่น Jabra Elite 75t, Jabra Elite Active 75t และ Jabra Elite 45h ดีไซน์ใหม่ กะทัดรัด แบตอึด ใครสนใจต้องลองเลื่อนลงไปดูรายละเอียดกันเลย
Jabra Elite 75t
=> เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless เจนเนอเรชั่นที่ 4 ของหูฟังในตระกูล Elite ที่พัฒนาต่อยอดมาจากความสำเร็จของหูฟังรุ่น Jabra Elite 65t
=> มีคุณสมบัติการถ่ายทอดเสียง รวมถึงการออกแบบอย่างพิถีพิถัน และการเชื่อมต่อให้มีประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แบบ โดยมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่แน่นขึ้น แบตเตอรี่ที่ยาวนาน
=> ขนาดที่เล็กลงถึง 20% จึงสวมใส่ได้สบายและกระชับมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ใช้ชาวเอเชีย และผู้หญิง
=> นอกจากนั้นยังมีไมโครโฟนถึง 4 ตัว ซึ่งจะช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกขณะกำลังสนทนา เพื่อให้ได้ยินเสียงที่คมชัดในทุกสภาวะ
=> สามารถกันฝุ่นและละอองน้ำได้ในระดับ IP55
=> มีฟังก์ชั่น Jabra Sound + ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบเสียงเพลงด้วยตัวเองได้อย่างอิสระตามความต้องการ
=> รวมไปถึง การอัพเดทเฟิร์มแวร์ที่สามารถทำให้หูฟังมีฟังก์ชันที่ดีขึ้น และฉลาดขึ้นอีกด้วย
=> รองรับการใช้งานด้วยเสียงอย่าง Amazon Alexa, Siri และ Google Assistant เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้สมาร์ทฟังก์ชันต่างๆ
=> มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นเดิมถึง 50% โดยรองรับการใช้งานได้ยาวนาน 7.5 ชั่วโมง และชาร์จได้เพิ่มอีกรวมเป็น 28 ชั่วโมง แต่หากแบตเตอรี่ไม่พอ เพียงชาร์จไฟแค่ 15 นาที ก็สามารถจะใช้งานได้ต่อเนื่องอีก 60 นาที มี
=> พร้อมวางจำหน่ายในราคา 6,290 บาท
Jabra Elite Active 75t
=> เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless สำหรับผู้ที่ใช้ออกกำลังกาย
=> มีมาตราฐานกันฝุ่นและละอองน้ำได้ถึงระดับ IP57 ซึ่งสามารถจมอยู่ในน้ำได้ลึกไม่เกิน 1 เมตร ในเวลาไม่เกิน 30 นาทีเลยทีเดียว
=> นอกจากสเป็คที่เทียบเท่ากับตัว Jabra Elite 75t แล้ว ตัว Jabra Elite Active 75t ยังมีการเคลือบผิวของหูฟังด้วยวัสดุพิเศษ ที่ช่วยทำให้หูฟังยึดเกาะกับหูได้ดีขึ้นอีกด้วย
=> พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ด้วยราคา 6,990 บาท
Jabra Elite 45h
=> เป็นหูฟังแบบครอบหูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้คอเพลงได้ดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีอย่างเต็มอิ่มในราคาย่อมเยาว์ แต่ยังได้คุณภาพสียงที่ดีและรองรับการใช้งานที่ยาวนาน
=> โดยมาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 40 ม.ม.ทำให้ถ่ายทอดเสียงได้อย่างคมชัด และยังโดดเด่นด้วยระบบไมโครโฟน 2 ตัว ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติเพื่อให้ได้คู่สนทนายินเสียงที่คมชัด
=> รองรับการทำงานร่วมกับ Jabra Sound+ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเสียงต่าง ๆ ผ่านมือถือได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย
=> รวมถึงมีเทคโนโลยีใหม่ MySound ที่จะมาช่วงไตรมาสที่ 2 จะเลือกปรับสมดุลของเสียงเหมาะกับการได้ยินของผู้ใช้อีกด้วย
=> ตัวหูฟังยังทำจากวัสดุคุณภาพอย่างดี ทำให้หูฟังมีความเบาพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 170 กรัม
=> แผ่นรองหูฟังมีความนุ่มสวมใส่สบาย นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Siri, Amazon Alexa และ Google Assistant โดยทำงานร่วมกับ Jabra Sound + เพื่อปรับแต่งเสียงได้อย่างอิสระ
=> สามารถรองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง และมีระบบ Quick Charge ที่ทำให้คนรักเสียงดนตรีสามารถฟังเพลงได้นานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง เพียงชาร์จไฟแค่ 15 นาที จึงไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดขณะเดินทาง
=> พร้อมวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ด้วยราคา 3,490 บาท