อนุมัติโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาใหม่ เงินเดือนไม่ถึง 26,000 ไม่ต้องจ่ายภาษี!

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

โครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาแบบใหม่ที่เพิ่งอนุมัติมาสดๆร้อนๆครับพี่น้องชาวไอทีเมามันส์ ใครเงินเดือนในเกณฑ์นี้ก็เฮกันเลยดังว่าต้องจ่ายภาษีแล้ว โดยที่ประชุม ครม. มีมติปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักค่าใช้จ่ายเพิ่มได้ 1 แสนบาท เงินเดือนไม่ถึง 26,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษีใหม่ จะเริ่มตั้งแต่รายได้ไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี ส่วนคนมีเงินได้ ตั้งแต่ผู้มีเงินได้ 150,001-300,000 บาท เสียภาษี 5% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 300,001-500,000 บาท เสียภาษี 10% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 500,001-750,000 บาทเสียภาษี 15% ผู้มีเงินได้ตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาท เสียภาษี 20% และผู้มีเงินได้ 1,000,001-2,000,000 บาท เสียภาษี 25% ผู้มีเงินได้ 2-5 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 30%  ผู้มีรายได้ 5 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีในอัตรา 35%

และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีภาษี 60 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ปีละ 32,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% เนื่องจากขณะนี้งบประมาณยังเพียงพอ รวมถึงต้องดูการใช้จ่ายของประชาชนด้วย ส่วนในอนาคตหากเศรษฐกิจฟื้น หากมีความจำเป็นต้องขึ้นแวต จะต้องพิจารณาอีกครั้ง

รายละเอียดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้

  1. ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของเงินเดือน ค่าจ้าง ค่านายหน้า ฯลฯ อันเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร จากเดิมให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 40 ของเงินได้แต่ไม่เกิน 60,000 บาท เป็นร้อยละ 50 ของเงินได้แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
  2. ปรับปรุงการหักค่าใช้จ่ายของเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (3) แห่งประมวลรัษฎากรจากเดิมให้หักได้เฉพาะค่าแห่งลิขสิทธิ์โดยให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 40 ของค่าแห่งลิขสิทธิ์แต่ไม่เกิน 60,000 บาท ขยายเพิ่มให้ ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น สามารถหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50 ของเงินได้ดังกล่าว แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หรือหักค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรได้
  3. ปรับปรุงการหักค่าลดหย่อน ดังนี้
    1. ค่าลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท
    2. ค่าลดหย่อนสำหรับคู่สมรสของผู้มีเงินได้ จากเดิม 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท
    3. ค่าลดหย่อนบุตรจากเดิมคนละ 15,000 บาท และจำกัดจำนวนไม่เกิน 3 คน เป็นคนละ 30,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร และยกเลิกค่าลดหย่อนการศึกษาบุตร (จากเดิมที่ให้หักลดหย่อน 2,000 บาท/คน)
    4. ในกรณีที่คู่สมรสต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ ให้หักลดหย่อนรวมกันได้ไม่เกิน 120,000 บาท
    5. กองมรดกเดิมให้หักลดหย่อนได้ 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท
    6. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล เดิมให้หักลดหย่อนแก่หุ้นส่วนคนละ 30,000 บาท แต่รวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท เป็นคนละ 60,000 บาท แต่รวมกันต้องไม่เกิน 120,000 บาท
  4. ปรับปรุงขั้นเงินได้ และบัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนี้
    บัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน บัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีการปรับปรุง  เงินได้สุทธิ อัตราภาษี (ร้อยละ) เงินได้สุทธิ อัตราภาษี (ร้อยละ)บัญชีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
    * ทั้งนี้ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกยังคงสามารถใช้ต่อไปตามพระราช  กฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 470) พ.ศ. 2551
  5. ปรับปรุงเกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี ดังนี้
    1. กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) เพียงประเภทเดียว
      – หากผู้มีเงินได้เป็นโสด จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 50,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 100,000 บาท
      – หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้รวมกันเกิน 100,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้รวมกันเกิน200,000 บาท
    2. กรณีมีเงินได้จากการจ้างแรงงาน (เงินเดือน ค่าจ้าง) และมีเงินได้ประเภทอื่นด้วย หรือกรณีมีเฉพาะเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินได้จากการจ้างแรงงาน
      – หากผู้มีเงินได้เป็นโสด จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
      – หากผู้มีเงินได้มีคู่สมรส จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้รวมกันเกิน 60,000 บาทเป็นต้องมีเงินได้รวมกันเกิน 120,000 บาท
    3. กรณีกองมรดกของผู้ตายที่ยังมิได้แบ่ง จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาทเป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
    4. กรณีห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล จากเดิมต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีเงินได้เกิน 30,000 บาท เป็นต้องมีเงินได้เกิน 60,000 บาท
  6. การปรับปรุงดังกล่าวข้างต้น ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2560 เป็นต้นไป การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะทำให้การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีความเหมาะสมเป็นธรรม สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการช่วยบรรเทาภาระภาษีแก่ผู้มีเงินได้โดยผู้เสียภาษีที่มีเฉพาะเงินได้ประเภทเงินเดือนและหักลดหย่อนส่วนตัวโดยไม่ใช้สิทธิลดหย่อนรายการอื่น จะเริ่มเสียภาษีเมื่อมีเงินได้ 26,000 บาทต่อเดือน

อัตราภาษี

ภาษีเงินได้บุคคลปี 60

ค่าใช้จ่ายและค่าลดย่อยภาษีปี 60

ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้ฯกระทบรายได้รัฐลดลงปีละ 32,000 ล้านบาท แต่หวังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน ภาษีบุคคลธรรมดาคิดเป็น 17% ภาษีนิติบุคคล 32% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 41% ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3% ภาษีธุรกิจปิโตรเลียม 5% ฯลฯ

รายละเอียดยิบย่อยน่าดูเอาเป็นว่าใครที่อยู่ในเกณฑ์ก็คงต้องศึกษารายละเอียดกันนะครับผลประโยชน์เราทั้งนั้นครับ..

Reference

  • ครม.ไฟเขียวปรับโครงสร้าง  “ภาษีบุคคลลดหย่อน1แสน” at dailynews
  • ครม. ไฟเขียวปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา at bangkokbiznews

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This