แหล่งข่าวเผย iPhone 13 อาจได้รับการอัพเกรดระบบการยืนยันตัวตนแบบ Face ID

Must Read

สวัสดีคอไอที สาวกค่ายผลไม้ และชาวไอโฟนทุกคน วันนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า iPhone 13 อาจได้รับการอัพเกรด Face ID ให้ยืนยันตัวตนได้แม้สวมหน้ากากหรือแว่นตา

รายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามหาคำตอบได้ที่ด้านล่างนี้เลย

  • เร็วๆ นี้ Apple ถูกอ้างว่ามีการสร้างเคสพิเศษสำหรับ iPhone 12 ให้กับพนักงานบางส่วนได้ทดลองใช้ โดยเคสดังกล่าวมีการติดตั้งระบบ Face ID ใหม่ ที่คาดว่าจะนำมาใช้กับ iPhone 13 ซึ่งถูกพัฒนาให้สามารถยืนยันตัวตนได้ แม้เจ้าของ iPhone จะสวมใส่หน้ากากหรือแว่นตา
  • เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่หน้ากากอนามัยกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนทั่วโลก ซึ่งต้องสวมใส่ทุกครั้งที่ออกนอกบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายของ COVID-19
  • ซึ่งนั่นก็ทำให้ Face ID ใน iPhone กลายเป็นฟีเจอร์ที่ไม่มีประโยชน์ จึงเป็นสาเหตุให้ Apple พัฒนา Face ID ให้สามารถระบุใบหน้าเจ้าของ iPhone ได้แม้สวมหน้ากาก
  • โดยแหล่งข่าวรายงานว่าพนักงานของ Apple ถูกขอให้ทดสอบการใช้งานเคสพิเศษที่มีระบบ Face ID ใหม่ เพื่อยืนยันตัวตนทั้งในร่ม กลางแจ้ง ในขณะที่สวมแว่นตาและหน้ากากหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อนำมาใช้งานจริงจะไม่มีปัญหาในชีวิตประจำวัน
  • การปลดล็อค iPhone ในปัจจุบัน ขณะที่ผู้ใช้งานสวมหน้ากาก สามารถทำได้โดยการป้อนรหัสผ่าน หรือใช้ Apple Watch ช่วยปลดล็อค ซึ่งไม่ได้รับความสะดวกมากนักเมื่อเทียบกับการสแกนใบหน้าโดยตรง
  • นอกจากนี้ Apple ยังมี Touch ID เป็นอีกวิธีในการปลดล็อค iPhone แต่ดูเหมือนยังไม่พร้อมที่จะไม่นำกลับมาใช้ใน iPhone 13 ถึงแม้จะมีข่าวลือ Apple มีความพยายามติดตั้ง Touch ID ไว้ใต้หน้าจอแล้วก็ตาม

และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับ iPhone 13 ที่เราอยากจะอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจชาวไอโฟนทุกคน และหากมีข่าวความเคลื่อนไหวประการใดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อีก เราจะรีบแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบโดยทันที

ที่มา

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This