โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ตอกย้ำจุดขาย พัฒนาโครงการฉีกแนวคู่แข่ง

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ , โนเบิล “ถ้าต้องทำในสิ่งที่ตลาดชอบ คงไม่มีโนเบิลในวันนี้” คือคำพูดทีเล่นทีจริงจาก “ธงชัย บุศราพันธ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” เมื่อถูกเริ่มต้นคำถามถึงที่มาของการเปิดโครงการที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ธงชัย ย้ำว่า การพัฒนาโครงการของโนเบิล ไม่ใช่การพัฒนาตามความต้องการของลูกค้า แต่เป็นการพัฒนาจากมุมมองว่าลูกค้าน่าจะชอบ! เพราะต้องการออกแบบโครงการให้แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น และเมื่อสร้างจุดขายต่างมาเรื่อยๆ ก็พบว่าได้การตอบรับที่ดี “ในปัจจุบัน เรามักได้ยินใครๆ พูดถึงความทันสมัย พูดกันจนเฝือไปหมด สุดท้ายทุกคนก็จะทำออกมาแบบเดียวกัน แต่เราไม่ชอบตามคนอื่น เราอยากเป็นคนเขียนเองว่า โครงการที่ดี โครงการที่ลูกค้าชอบ ควรจะต้องออกแบบยังไง ซึ่งพอทำไปทำมา เราก็เป็นคนเขียนจริงๆ เพราะพอทำไปสักพักก็พบว่า ผู้ประกอบการบางรายหันมาออกแบบตามเรา” การออกแบบของโนเบิล จะเน้นที่ความหรูหรา ไม่ต้องใช้ประตูทองมาตกแต่ง เพราะไม่ต้องการให้เป็นการโอ้อวดซึ่งทำให้มองแล้วเบื่อง่าย การออกแบบของโนเบิลจึงมีลักษณะเป็น “Quiet Design” ซึ่งธงชัย อธิบายว่าเป็นความสวยแบบเงียบๆ ที่ดูแต่เป็นอมตะ ออกแบบให้แตกต่างอย่างมีเหตุผล มีหลักการ ไม่ว่าจะเข้ามาดูวันนี้หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ก็จะต้องรู้สึกเหมือนเดิมว่า “อืมม..สวย” ส่วนกลุ่มเป้าหมายของโนเบิล คือลูกค้าที่เป็น “กบฏ” นิดๆ ชอบความแตกต่าง เช่น สถาปนิก ครีเอทีฟโฆษณา กลุ่มคนทำงานโปรดักชั่น และปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าของโนเบิลก็เป็นคนกลุ่มดังกล่าวราว 10-20% สำหรับการทำการตลาดในภาพรวม ธงชัย ไม่เห็นด้วยกับการใช้ดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะแม้ดาราจะช่วยให้ทำการตลาดง่ายขึ้นเห็นผลได้เร็ว มีแฟนคลับของดาราติดตามมาเป็นลูกค้า แต่จะทำให้เกิดคำถามตามมาว่า คุณค่าหรือแวลูจริงๆ อยู่ตรงไหน อยู่ที่ดาราหรือสินค้า! “ผมเคยเห็นงานเปิดตัวเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งใช้ดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ ในงานมีการประมูลเสื้อผ้าแบรนด์นั้นที่ดาราใส่ เพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้นไปถึงหลักแสน แต่นั่นคือการทำให้คุณค่าของสินค้าเสียไป เพราะลูกค้าไม่ได้เริ่มต้นซื้อเพราะคุณภาพของสินค้าหรือแบรนด์ แต่ซื้อเพราะดารา” ธงชัย ย้ำว่า การตลาดของโนเบิล คือการใช้ “แนวคิด” เป็นตัวนำ โนเบิลจะเสนอแนวคิดที่อยากเสนอให้ผู้บริโภคได้รับรู้เป็นหลัก สังเกตได้ว่า สปอตโฆษณาของโนเบิลความยาว 60 วินาที มีภาพบ้านปรากฏให้เห็นแค่ 1 วินาที ส่วนที่เหลืออีก 59 วินาที เป็นแนวคิดการทำโครงการ ก็มีมาแล้ว ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดคอนโดมิเนียมในปีนี้ เอ็มดีโนเบิลยืนยันว่า จะยังคงเน้นการทำตลาดผู้บริโภคในเมืองเช่นเดิม เพราะตลาดในเมืองนั้น แม้จะหาที่ดินยาก แต่ก็ยังมีดีมานด์เรื่อยๆ ขณะที่บริเวณพื้นที่รอบนอกและต่างจังหวัด มีความต้องการขายที่ดินอีกมาก แต่ความต้องการซื้อบ้านไม่มากขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม โนเบิล ก็อยู่ในช่วงศึกษาตลาดสำรอง เพราะผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ที่กำลังจะประกาศบังคับใช้ จะส่งผลให้หาที่ดินที่เหมาะสมในการก่อสร้างคอนโดมิเนียมยากขึ้น โนเบิลจึงอาจต้องบุกตลาดปริมณฑลและตลาดต่างจังหวัดบ้าง โดยใช้แบรนด์ใหม่ จับกลุ่มลูกค้าตลาดผู้มีรายได้น้อยลงและมากขึ้นจากที่เคยทำอยู่ นอกจากนี้ ยังเตรียมใช้กลยุทธ์เข้าถึงผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเร็วๆ นี้ จะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นที่ร่วมกันทำกับ Art4D ในชื่อ “NobleID” บน iPad, iPhone และ Android เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคผ่านการให้ความรู้ด้านศิลปะ สถาปัตยกรรม การออกแบบ โดยตั้งกองบรรณาธิการขึ้นเพื่ออัพเดทข่าวสารทุกวัน คาดหวังยอดดาวน์โหลดที่ 1-2 หมื่นคนภายใน 3 เดือน “การทำแอพพลิเคชั่นแนวนี้จริงๆ ก็ใช้งบพอๆ กับการจ้างดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือเผลอๆ อาจมากกว่า เพราะต้องใช้งบทำในระยะยาว แต่การทำแอพพลิเคชั่นให้ความรู้ ทำให้เรากับผู้บริโภคใกล้ชิดกันมากขึ้น และผู้บริโภคของเราได้รับประโยชน์จริงๆ” และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่แตกต่างของโนเบิล

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This