ไม่แน่ว่าเร็วๆ นี้ Apple อาจถูกบังคับให้เปลี่ยนมาใช้มาตรฐานการชาร์จแบตเตอรี่ตามมาตรฐานที่ EU ต้องการ

Must Read

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับข่าวความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกไอที สำหรับวันนี้เรามีข่าวสำคัญจะแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า อาจเป็นเร็วๆ นี้ที่ Apple จะถูกบังคับให้เปลี่ยนมาตรฐานการชาร์จแบตเตอรี่ มาใช้มาตรฐานเดียวกันในยุโรป

บทสรุปเรื่องมาตรฐานพอร์ตเชื่อมต่อสำหรับระบบชาร์จแบตเตอรี่ของ EU ในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

=> สมาชิกรัฐสภายุโรปเริ่มเดินหน้าแผนผลักดันกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อ ใช้พอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานเดียวกันสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และล่าสุดมีการลงมติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

=> สมาชิกรัฐสภายุโรป ให้คะแนนเสียงท่วมท้น 582 ต่อ 40 ให้คณะกรรมาธิการยุโรปร่างกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคยุโรป ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ เมื่อมีการซื้ออุปกรณ์ใหม่ และคาดว่าจะสามารถนำกฎหมายใหม่มาใช้ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

จุดประสงค์ในการออกกฎหมายในครั้งนี้

=> เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ จากผลสำรวจในปี 2016 พบว่าประชากรในยุโรปได้สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 12.3 ล้านตัน

ความจริงแล้วคณะกรรมาธิการยุโรป เคยขอความร่วมมือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้หันมาใช้อุปกรณ์ชาร์จมือถือมาตรฐานเดียวมานานกว่าทศวรรษ

=> การบอกกล่าวความต้องการของ EU ก่อนหน้านี้มีบริษัท Apple, Samsung, Huawei และ Nokia ร่วมลงนามในปี 2009 เพื่อผลักดันอุปกรณ์ชาร์จมือถือรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดในปี 2011

=> แต่เป็น Apple เพียงรายเดียวที่ใช้พอร์ต Lightning ขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ใช้พอร์ตมาตรฐานเดียวกัน คือ Micro-USB ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนมาใช้ USB Type-C

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าคณะกรรมาธิการยุโรป จะบังคับให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใช้มาตรฐานใดในการผลิตอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ แต่คาดว่าจะเป็นมาตรฐาน USB Type-C ซึ่งจะทำให้ Apple ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ที่มา – iDropNews

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

เผยรายงานคนไทยเผชิญ SMS หลอกลวงมากสุดในเอเชียปี 2566 จาก Whoscall

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นสิ่งที่ไหลเวียนได้รวดเร็วที่สุด ประเด็นเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศก็เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่อง Whoscall, แอปพลิเคชั่นชั้นนำที่ช่วยในการระบุตัวตนของสายเรียกเข้าไม่ที่รู้จักและการป้องกันข้อความสแปม, ได้เปิดเผยรายงานประจำปี 2566 ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยตกเป็นเหยื่อของ SMS หลอกลวงมากกว่าใครในเอเชียด้วยจำนวนถึง 58 ล้านข้อความ แม้ว่าในภูมิภาคเอเชียโดยรวมจะพบว่าการหลอกลวงมีแนวโน้มลดลงจากการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในประเทศไทยกลับพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ การหลอกลวงเหล่านี้รวมถึงการส่งข้อความที่มีลิงก์ปลอม, การหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนและเว็บพนัน และการใช้ชื่อของหน่วยงานรัฐในการหลอกลวง การรายงานจาก Whoscall ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการรับข้อมูล พวกเขายังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL...
- Advertisement -

More Articles Like This