ASUS รุกตลาดเครื่องคอมพิเวตอร์พีซี เชื่อเดสก์ท็อปพีซียังมีอนาคต

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

เครื่องคอมพิวเตอร์ ASUS แบบตั้งโต๊ะ นายมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพนแพลตฟอร์ม บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กำลังซื้อในตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยชะลอตัวลง เป็นผลมาจากราคาพืชผลที่ลดลง อย่างกรณีราคายางที่ลดลงมามาก รวมถึงผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว รวมถึงในปีนี้ที่มีความวิตกกังวลว่าจะเกิดขึ้นอีก ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในส่วนที่เป็นคอมโพแนนต์คอมพิวเตอร์ลดลง 5-10% “ช่วงนี้ร้านค้าที่ขายสินค้าของเอซุสหลายแห่งในต่างจังหวัด รวมถึงที่เซียร์รังสิตใช้วิธีการสั่งซื้อสินค้าแบบวันต่อวัน จะไม่มีการเก็บสต๊อกสินค้าไว้ที่ร้านเหมือนเมื่อก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดจากน้ำท่วมได้” สำหรับตลาดเดสก์ท็อปพีซีหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะนั้น ในภาพรวมยังถือว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่โดยเฉพาะพีซีที่มีแบรนด์จะได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกในการซื้อ รวมถึงสเปกของเครื่องที่ไม่ต่างจากพีซีที่ประกอบเองหรือดีไอวาย ในขณะที่แนวโน้มพีซีจะมีลักษณะการใช้งานเป็นเซ็นเตอร์การทำงานต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานทางด้านกราฟิก เป็นศูนย์รวมเอนเตอร์เทนเมนต์ภายในบ้าน รวมถึงการใช้งานทางด้านเกม ปีที่แล้วบริษัทแม่ที่ไต้หวันได้นำร่องธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีในตลาดประเทศญี่ปุ่น และในอเมริกาเหนือ กระแสการตอบรับดีเป็นผลมาจากชื่อเสียงของเอซุสในฐานะแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งด้านการผลิตอุปกรณ์คอมโพแนนต์ต่างๆ นั่นเป็นที่มาของการเริ่มต้นเปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์ของเอซุสเอง และถือว่าเป็นครั้งแรกที่เอซุสได้นำเสนอไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีเข้าสู่ตลาดคอนซูมเมอร์ในประเทศไทยในไตรมาสนี้อย่างเป็นทางการ นายมนต์ธีร์กล่าวว่า จริงๆ แล้วเอซุสได้ทดลองทำตลาดเดสก์ท็อปพีซีในไทยไปบ้างแล้ว แต่เป็นในส่วนตลาดพีซีคอมเมอร์เชียล โดยเอซุสได้เข้าร่วมในโครงการคอมพิวเตอร์ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีการปรับเปลี่ยนกฎข้อบังคับใหม่ที่ส่วนประกอบภายในพีซีจะต้องเป็นแบรนด์เดียวกันทั้งหมด ยกเว้นซีพียู หน่วยความจำ และฮาร์ดดิสก์ ทำให้เอซุสมีส่วนแบ่งตลาด 1% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แต่หลังจากที่เอซุสเปิดตัวเดสก์ท็อปพีซีในตลาดคอนซูเมอร์ในไตรมาสที่ 4 นี้ ทำให้เอซุสคาดว่าภายในสิ้นปีน่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดพีซีที่มีแบรนด์ประมาณ 3% จากขนาดตลาด 300,000-400,000 เครื่องในปีนี้ “สัดส่วนยอดขายพีซีคอมเมอร์เชียลจะอยู่ที่ 80% ที่เหลือเป็นยอดขายในส่วนของคอนซูเมอร์ แต่คาดว่าในปีนี้เอซุสน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 5%” นอกจากจุดแข็งในเรื่องของเป็นแบรนด์ที่ผลิตเมนบอร์ด การ์ดจอแสดงภาพ รวมถึงคอมโพแนนต์แล้ว จุดแข็งในเรื่องของนวัตกรรมและการรับประกันสินค้าเป็นเวลา 3 ปีในลักษณะให้บริการถึงบ้าน ถือเป็นข้อได้เปรียบกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่ทำตลาดอยู่ในเวลานี้ ทั้งนี้ งบประมาณในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สำหรับเดสก์ท็อปพีซีตกประมาณ 10 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจโอพี บีจี เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาด โดยเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มตัวผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ รวมไปถึงการทำการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ กิจกรรมที่เห็นในตลาดคอนซูเมอร์นั้นจะใช้วิธีให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริง นายมนต์ธีร์กล่าวว่า ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เดสก์ท็อปพีซีแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มเกมมิ่งพีซี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคอเกมที่ต้องการสมรรถนะความแรงของเดสก์ท็อปและกราฟิกคุณภาพดีเลิศ ทั้งจากแบรนด์เอซุส และ ROG (Republic of Gamers) ซึ่งเป็นซีรีส์สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ น่าจะเป็นพีซีแบรนด์เดียวที่ออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับคอเกมโดยเฉพาะ 2. กลุ่มเพอร์ฟอร์แมนซ์พีซี สามารถรองรับความต้องการเฉพาะทางซึ่งต้องอาศัยประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องสูง เช่น การออกแบบกราฟิก การใช้งานด้านสถาปัตยกรรม การชมภาพยนตร์ และการใช้งานด้านความบันเทิงระดับคุณภาพต่างๆ และ 3. กลุ่มไลฟ์สไตล์พีซี เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีที่รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานในออฟฟิศ การศึกษา ความบันเทิงด้านต่างๆ ฯลฯ โดยเน้นความคุ้มค่า และการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This