นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการของปี 2555 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปี 2554 28% โดยสัดส่วนรายได้มาจาก โน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊ก 98% อีแพดหรือแท็บเล็ต 1% และแพดโฟน (ที่เพิ่งลงตลาดประเทศไทยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา) มีรายได้คิดเป็น 1% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทฯ ทั้งนี้จะเป็นว่าโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กเป็นหมวดที่สร้างรายได้หลักในกลุ่ม โดยเฉพาะตลาดในภาคใต้ เอซุส โน้ตบุ๊กประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายมาเป็นอันดับ 1 ส่วนภาคเหนือเอซุสยังเป็นอันดับที่ 2 แต่เตรียมเดินหน้ารุกตลาดเพิ่มด้วยการตั้งศูนย์บริการลูกค้าที่เชียงใหม่รับการเติบโต กก.ผจก.บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2556 นี้ ไตรมาสแรก เราจะเน้นตลาดแท็บเล็ต ด้วยความมั่นใจในการออกแบบของผลิตภัณฑ์ รวมถึงคุณภาพของสินค้า ดังนั้น ขบวนแท็บเล็ตที่จะนำมาเปิดตัวให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสจะไม่ผิดหวัง ทั้งด้วยรูปโฉมและราคาอย่างแน่นอน เช่น Nexus7 และ Transformer Book เป็นต้น นอกจากนั้น เอซุส จะนำเข้าสินค้าในกลุ่ม Accessories เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังเป็นปีแรก ด้วยรางวัลการันตีความสวยงามด้านการออกแบบของเอซุสที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Reddot, Good Design, iF Design Award ฯลฯ ทำให้เราเชื่อว่าตลาดของสินค้าในกลุ่มนี้จะมีบทบาทชัดเจนในปี 2556 ทั้งนี้สินค้ากลุ่มนี้จะทำให้เอซุสมีสินค้าครบทุกกลุ่ม และยังช่วยให้คู่ค้าร้านที่จำหน่ายมีสภาพธุรกิจที่แข็งแรง และเติบโตได้ นายพรเทพ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าการแข่งขันของตลาดไอทีจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ความต้องการสินค้าของผู้บริโภคก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีแท็บเล็ตเป็นตัวชูโรง โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีจำนวนแท็บเล็ตในตลาดกว่า 2.3 ล้านเครื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าในกลุ่มของโน้ตบุ๊ก ที่เน้นรองรับระบบปฏิบัติการ Windows 8 และ Android รวมถึงหน้าจอแบบทัชสกรีนที่ตอบโจทย์การใช้งานให้มากขึ้น ขณะเดียวกันสภาพตลาดในยุคโพสต์พีซี ทำให้คู่แข่งในตลาดอ่อนแรง เพราะตลาดโน้ตบุ๊กชะลอตัว แต่กลับเป็นโอกาสดีของเอซุสในการทำตลาด เพราะมีสินค้าตรงกับความต้องการ และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นผ่านช่องทางจำหน่ายที่เป็นไฮเปอร์มาร์ท และห้างสรรพสินค้า รวมถึงตลาดต่างจังหวัดที่เติบโตเร็ว ก็เป็นอีกส่วนที่เอซุสจะมุ่งเน้นในปีนี้ กก.ผจก.บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ฯ กล่าวด้วยว่า ในด้านเป้าหมายของปี 2556 พาเหรดสินค้าของแท็บเล็ตที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี การออกแบบที่สวยงาม นวัตกรรมดีๆ แปลกใหม่ ของแพดโฟน เข้าแถวเดินหน้าลงตลาดประเทศไทย โดยจะมีแท็บเล็ตแอนดรอยด์ครบทุกกลุ่มตั้งแต่ต่ำกว่า 5,000 บาทไปจนถึงระดับ 10,000 บาท สำหรับตลาดกลางถึงล่าง และสินค้ากลุ่มไฮเอนด์ ที่เป็นวินโดวส์ 8 รวมถึงโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ที่พร้อมตอบทุกโจทย์การใช้งาน จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เอซุส ซิสเต็ม ยูนิต มีความเป็นไปได้ว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 35-40% อย่างแน่นอน โดยที่ส่วนแบ่งการตลาดรวมของเอซุสน่าจะอยู่ที่ประมาณ 20% จากที่เคยได้ 16-17% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดโน้ตบุ๊กรวมของประเทศไทยเองน่าจะโตอีก 5% คงไม่โตระดับ 15-20% เหมือนในอดีต. [code]ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/tech/318790 [/code]