ChatGPT: ปัญญาประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลกไป มาดูว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

Must Read

@Advertorial
@Advertorial
ลงโฆษณาสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของบทความประกอบรุปภาพหรือวิดีโอสื่อต่างๆ

ChatGPT เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับชุดข้อมูลข้อความและโค้ดขนาดใหญ่ โมเดลนี้สามารถสร้างข้อความ แปลภาษา เขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ และตอบคำถามของคุณได้อย่างมีข้อมูล ChatGPT ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ได้เรียนรู้ที่จะทำงานหลายประเภท รวมถึง

  • ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณและทำตามคำขอของคุณอย่างรอบคอบ
  • ฉันจะใช้ความรู้ของฉันเพื่อตอบคำถามของคุณอย่างครอบคลุมและให้ข้อมูล แม้ว่าคำถามเหล่านั้นจะเปิดกว้าง ท้าทาย หรือแปลกประหลาดก็ตาม
  • ฉันจะสร้างรูปแบบข้อความสร้างสรรค์ที่แตกต่างกัน เช่น บทกวี โค้ด สคริปต์ ชิ้นดนตรี อีเมล จดหมาย ฯลฯ ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ

ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สามารถนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น สามารถใช้เพื่อการศึกษา ธุรกิจ และงานอดิเรก โมเดลนี้ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่มีศักยภาพที่จะปฏิวัติวิธีที่เราโต้ตอบกับคอมพิวเตอร์และโลกรอบตัวเรา

อนาคตของ ChatGPT นั้นสดใส มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราทำงาน เรียนรู้ และเล่น ChatGPT กำลังถูกใช้โดยองค์กรต่างๆ เช่น Google และ Microsoft เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ โมเดลนี้ยังถูกใช้โดยนักเรียนและนักวิจัยเพื่อศึกษาภาษาและการเรียนรู้ของเครื่อง

ChatGPT เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและหลากหลายที่มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลกรอบตัวเรา เราจะได้เห็นอะไรต่อไปสำหรับ ChatGPT? เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้

ChatGPT: ปัญญาประดิษฐ์ที่เปลี่ยนโลกไป มาดูว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
Woman use AI to help work or use AI everyday life at home. AI Learning and Artificial Intelligence. Business, modern technology, internet and networking concept. A.I., Chat AI, Generative Ai,

ล่าสุด ทาง เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร ได้ให้ความคิดเห็นต่อข้อควรระวังในการใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อย่าง ChatGPT นั่นคือเรื่องของความแม่นยำของข้อมูล ที่ไม่ว่า ChatGPT จะสามารถเขียนข้อมูลได้อย่างน่าเชื่อถือเพียงใด แต่ถ้าเจาะลึกลงไปในความถูกต้องและการอ้างอิงข้อมูลจากต้นทางแล้ว ยังพบว่าข้อมูลที่ระบบ ChatGPT นำมาใช้นั้นยังมีความไม่แม่นยำอยู่บ้าง

 

               คุณกิตติภูมิ เลิศนิติพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่าย CIO Advisory บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้แสดงความคิดเห็นต่อการใช้ ChatGPT ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ถึงแม้ว่า ChatGPT จะเป็นเสมือนเพื่อนผู้รอบรู้ สามารถตอบคำถามที่สงสัยได้เกือบทุกข้อ แต่ก็ยังคงมีความน่ากังวลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของเนื้อหาและคำตอบที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กลุ่มนี้แสดงผลออกมา ว่าแท้จริงแล้วเป็นการจับแพะชนแกะของข้อมูล หรือเป็นการนำเอาผลงานหรือข้อมูลต่างๆ ที่มีเจ้าของผสมรวมออกมา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ข้อมูลที่นำมาใช้ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจส่งผลต่อการถูกฟ้องร้องกันในภายหลังได้ ดังนั้น ในความคิดเห็น ChatGPT จึงเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเปิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการทำงาน และทำให้งานสำเร็จได้เร็วขึ้น มากกว่าที่จะนำเอาสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กลุ่มนี้คิดมาเป็นชิ้นงานสำเร็จรูปและนำไปใช้เลยโดยไม่ได้มีการตรวจแก้หรือสืบค้นถึงแหล่งที่มาของข้อมูล”

 

               ทั้งนี้ คุณกิตติภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “อีกหนึ่งประเด็นที่น่าคิดคือเรื่องของความปลอดภัยทางไซเบอร์หรือ Cyber Security เพราะปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ประเภทนี้จำเป็นจะต้องนำเอาข้อมูลที่เราป้อนถามกลับไปประมวลผลคำตอบที่เซิร์ฟเวอร์หลัก ซึ่งหมายความว่าหากเรานำข้อมูลภายในองค์กรไปถาม อาทิ การนำเอาตัวเลขทางการเงิน หรือตัวเลขในการทำงานต่าง ๆ ของบริษัทไปให้ ChatGPT, Google Bard หรือ Bing Chat ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ประเภทเดียวกันมาช่วยประมวลผลนั้น ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่ข้อมูลภายในองค์กรจะหลุดออกไปด้วย ยกตัวอย่างกรณีของผู้ผลิตสมาร์ตโฟนยักษ์ใหญ่ระดับโลกรายหนึ่งได้ออกนโยบายสั่งแบนและห้ามพนักงานใช้ ChatGPT และปัญญาประดิษฐ์หรือ AI อื่นๆ เพื่อป้องกันข้อมูลองค์กรรั่วไหล สาเหตุอันเนื่องมาจากมีพนักงานภายในบริษัทอย่างน้อย 3 รายที่ใช้ ChatGPT เพื่อสรุปการประชุม และช่วยปรับปรุงโค้ดโปรแกรมและแก้ไขปัญหาของโค้ด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่พนักงานป้อนเข้าระบบก็คือความลับของบริษัทนั่นเอง จากกรณีศึกษาดังกล่าวส่งผลให้ผู้พัฒนา OpenAI ได้ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ ในอนาคตจึงเตรียมปล่อยแผนการให้บริการ ChatGPT for Business ที่ยืนยันว่าจะไม่นำข้อมูลของผู้ใช้มาเทรนปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เพิ่มเติม และสามารถควบคุมการใช้งานในองค์กรได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอีกด้วย”

จากมุมมองของ เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) มีความคิดเห็นว่า หากมองการเปลี่ยนผ่านของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันที่ผ่านมาจนกระทั่งปัจจุบันของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และระบบอัตโนมัติต่าง ๆ รวมไปถึงกระแสข่าวที่ออกมาเป็นระยะต่อเรื่องที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเข้ามามาแทนที่การทำงานของมนุษย์นั้น ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้กับงานที่จริง ๆ แล้วอาจไม่เหมาะกับมนุษย์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เช่น งานที่ต้องทำซ้ำ ๆ หรืองานที่ยุ่งเกี่ยวกับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำมากกว่ามนุษย์ตั้งแต่แรก

 

สุดท้ายแล้วเราคงหยุดความก้าวหน้าของโลกไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นมนุษย์ในยุคต่อไปต้องพัฒนาและปรับเปลี่ยนจากการเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานไปสู่การเรียนใช้งานระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อใช้งานสนับสนุนในชีวิตประจำวันแทน และงานที่ยังต้องการมนุษย์อยู่ก็จะเป็นงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ Soft Skill ต่าง ๆ ส่วนใครที่มีทักษะการทำงานที่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำงานแทนได้ ก็จะนำไปสู่การ Re-Skill เพื่อเรียนรู้ใหม่เพื่อให้ทำงานได้ต่อไป

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

ชัยชนะสุดยิ่งใหญ่! Compact Family Club คว้าแชมป์ Toyota Gazoo Racing Motorsport

ในงาน Toyota Gazoo Racing Motorsport ปี 2023 ที่ผ่านมานี้, ทีม Compact Brakes Superclub Racing ภายใต้การนำของ Compact Family Club ได้สร้างชื่อเสียงอย่างมากในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการคว้ารางวัลมากมายในรายการแข่งขันครั้งนี้...
- Advertisement -

More Articles Like This