Sunday, October 19, 2025
27.2 C
Bangkok

Dupont (ดูปองท์) ประกาศปลดพนักงานพิษจากเศรษฐกิจโลกผันผวน

Dupont ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนัก ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าหากความต้องการในตลาดโลกยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมา และสถานการณ์เศรษฐกิจท้องถิ่นยังไม่เปลี่ยนทิศ ก็มีแนวโน้มว่าจะต้องมีคนตกงานอีกเป็นจำนวนมาก ดูปองท์ บริษัทด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ระดับโลก เผยในรายงานไตรมาส 3 ของบริษัทว่า มีแผนจะปลดพนักงานราว 1,500 คน หรือราว 2% ของแรงงานทั่วโลกเพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดต่ำลง เพราะความต้องการทั่วโลกซบเซาหนัก โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้างและพลังงานหมุนเวียน ขณะที่ ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ (ยูทีเอ็กซ์) บริษัทด้านอากาศยานที่เผชิญกับรายได้ลดลงเช่นกัน ระบุว่า บริษัทมีแผนหั่นงบการเงินตลอดทั้งปีลงอีก 20% มาอยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์ ผลจากความต้องการที่ลดลงในยุทโธปกรณ์ แต่ไม่ได้เผยตัวเลขแน่นอนของจำนวนพนักงานที่อาจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า วิกฤติหนี้ยุโรปที่ยังยืดเยื้ออยู่และทำให้หลายประเทศในภูมิภาคนี้ต้องดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด ส่งผลให้ความต้องการสินค้าในหลายภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ๆ หลายรายเป็นกลุ่มแรก สถานการณ์ดังกล่าวเห็นชัดมากขึ้นในช่วงเริ่มต้นปี 2556 เมื่อรายงานของสื่อหลายรายในสหรัฐบ่งชี้ว่า ภาคการเงินแดนอินทรีมีแนวโน้มลดคนงานต่อเนื่องราว 200,000 ตำแหน่งในปีนี้ หลังช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการเงินอเมริกาลดกำลังคนไปแล้วเกือบ 460,000 คน รวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา (บีโอเอ) ที่เมื่อปลายปีที่แล้วลดคนไป 30,000 ตำแหน่ง ล่าสุดคือ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเมกซ์) ที่เพิ่งประกาศแผนปลดพนักงาน 5,400 ตำแหน่ง การเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวช้า นายปีเตอร์ คาร์ดิลโล หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาด จากร็อคเวลล์ โกลบอล แคปิตอล ระบุว่า ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใดที่เห็นบริษัทข้ามชาติเหล่านี้แสดงความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจออกมา “ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใดก็ตามที่มีการดำเนินงานอยู่ในต่างประเทศ ต่างต้องหัวหมุนหาทางรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นอยู่เช่นนี้” นายคาร์ดิลโล ระบุ ที่ผ่านมามีบริษัทขนาดใหญ่หลายรายประกาศปลดพนักงานไปแล้วจำนวนมาก ที่เห็นเด่นชัดรวมถึงกรณีของ แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (เอเอ็มดี) ผู้ผลิตชิพรายใหญ่ ที่ประกาศลดพนักงานลง 15% จากทั้งหมด 12,000 ตำแหน่ง เพื่อรับมือกับความต้องการที่ลดลง เพราะรสนิยมในเรื่องคอมพิวเตอร์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป อุตฯการเงินจ่อลด2แสนคนปีนี้ ฟอร์จูน เว็บไซต์การเงินชั้นนำ รายงานว่า บีโอเอ เป็นหนึ่งในธนาคารหลายแห่งของสหรัฐที่ดำเนินการลดพนักงาน ท่ามกลางกระแสที่ผู้เล่นในภาคการเงินสหรัฐ วางแผนจะปลดพนักงานต่อเนื่อง 210,000 คนในเร็ววันนี้ และ บิสซิเนส เจอร์นัลส์ อ้างอิงข้อมูลกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมการเงินสหรัฐได้ปลดคนไปแล้วเกือบ 459,400 คนตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ด้านบิสซิเนสวีค วิเคราะห์ว่า การจ้างงานในอุตสาหกรรมการเงินสหรัฐลดลง และการปรับลดคนในสายงานธุรกิจแตกต่างกัน พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจโดยรวมและกิจกรรมในตลาด การปรับลดกำลังคนจำนวนมากมายในสหรัฐเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสวิกฤติการเงินยังมีอยู่ต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สะท้อนปัญหาว่างงานในสหรัฐยังไม่บรรเทาลง อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก มองว่า การลดตำแหน่งงานในภาคการเงินสหรัฐจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 ตำแหน่งในปีนี้ ขณะที่ “ฟอร์บส์” ชี้ว่าผลที่ตามมาจากการปรับลดพนักงาน จะทำให้ตำแหน่งงานหลายแสนตำแหน่งหายไปจากระบบ และบริษัทใดที่ปรับลดคนมากถึง 20,000 คน จะต้องทนอยู่กับเส้นทางยาวไกลในการกลับมาสู่ภาวะมีการจ้างงานสูงสุดอีกครั้ง ซึ่ง นายคอนสเตน เมลโรส ผู้บริหารของอีไฟแนนเชี่ยล แคเรียร์ นอร์ธ อเมริกา มองว่า บริษัทในภาคการเงินจะต้องใช้เวลานานจัดการกับปัญหานี้ ข้อมูลข้างต้นสอดรับกับรายงานเชิงวิเคราะห์ของ “ฟอร์บส์” นิตยสารเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐ ในชื่อเรื่อง “สาเหตุที่ทำให้การเลิกจ้างในวอลล์สตรีทร้ายแรงกว่าที่คิด” ระบุว่า กระแสพูดถึงการปลดคนและตัดลดกำลังคนในภาคการเงินสหรัฐกลายเป็นประเด็นร้อน ลดคนเพื่อประหยัดต้นทุน บีโอเอ แจ้งว่าเริ่มต้นแผนการปลดคนระยะแรกไปแล้ว และว่าพนักงานบางส่วนที่ออกจากงานนั้นไม่ได้ทำงานกับบริษัทอีกต่อไป และการเลิกจ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตัดลดกำลังคนมากขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อประหยัดต้นทุนของธนาคารให้ได้ 5,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ส่วนสำคัญที่สุดทำให้สถาบันการเงินอย่าง บีโอเอ ประหยัดต้นทุนได้คือเรื่องค่าตอบแทน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ บีโอเอ วางแผนจะลดคนราว 30,000 ตำแหน่งก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ บิสซิเนสวีค รายงานว่าภาคการเงินสหรัฐลดตำแหน่งงานลงหลายพันตำแหน่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และตัวเลขดังกล่าวจะปรับขึ้นมากกว่านี้อีก พิจารณาจากข่าวที่ มอร์แกน สแตนเลย์ แจ้งว่าพร้อมที่จะยุบฝ่ายวาณิชธนกิจของบริษัท และจะปรับลดคน 1,600 ตำแหน่ง ซึ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้จะเป็นพนักงานของมอร์แกน สแตนเลย์ในสหรัฐ ข้อมูลของ ชาร์ลอตต์ บิสซิเนส ออบเซิร์ฟเวอร์ ชี้ว่า การปลดพนักงานของ บีโอเอ ยังรวมถึงพนักงานจำนวนมากมาย ฝ่ายเทคโนโลยีกับฝ่ายปฎิบัติการที่ไม่ได้ประจำอยู่สำนักงานใหญ่ในมลรัฐนอร์ธ แคโรไลน่าด้วย ฟอร์บส์ เพิ่มเติมด้วยว่าการลดตำแหน่งงานไม่ได้เกิดขึ้นกับ บีโอเอ เท่านั้น แต่นักวิเคราะห์ของ แซนด์เลอร์ โอนีล มองว่าการตัดลดกำลังคนโดยรวมในภาคการเงินสหรัฐจะอยู่ระหว่าง 2-3% และเห็นว่าการตัดลดพนักงานในภาคบริการการเงินดูเหมือนเพ่งเล็งไปที่ธุรกิจธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อย จ้างงานใหม่ยากขึ้น ทั้งนี้ ยังมีสถาบันการเงินอื่นๆ อีกมากมายในสหรัฐกำลังดำเนินการหรือมีแผนปรับลดตำแหน่งงานลงมา และมีตัวบ่งชี้ไม่มากนักว่าหลังการปรับลดตำแหน่งงานแล้ว สถาบันการเงินนั้นๆ จะรับคนกลับเข้ามาอีกในอนาคต กรณีนี้รวมถึง เอเมกซ์ ที่เพิ่งจะประกาศแผนเลิกจ้าง 5,400 ตำแหน่งในปีนี้ พร้อมกับใช้เงิน 400 ล้านดอลลาร์ปรับโครงสร้างบริษัทในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งในรายละเอียดของการประกาศ ระบุว่าบริษัทจะลดตำแหน่งงานลง 4-6% จากกำลังคนที่มีอยู่ทั่วโลก 63,500 คน เพราะบริษัทกำลังเปลี่ยนไปให้บริการผ่านออนไลน์มากขึ้น ฟอร์บส์ รายงานไว้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ซิตี้กรุ๊ปพิจารณาลดกำลังคนลงอย่างน้อย 3,000 ตำแหน่ง ขณะที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ซิตี้แบงก์ เตรียมลดพนักงาน 11,000 คนทั่วโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 4% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัท ส่วนหนึ่งของการตัดลดค่าใช้จ่ายโดยรวมเพื่อเพิ่มความสามารถทำกำไร ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารชั้นนำรายใหญ่ของสหรัฐก็แจ้งปลายปีที่ผ่านมาว่าจะปลดพนักงานอีก 1,000 คนหลังจากที่ได้ลดพนักงานไป 2,400 คนเมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับต้นทุนใช้จ่ายขององค์กร 1,200 ล้านดอลลาร์ “ปลดคน”ลามทั่วโลก ฟอร์บส์วิเคราะห์ด้วยว่า การปรับลดตำแหน่งงานในภาคการเงินไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะสหรัฐเท่านั้น เพราะบริษัทและสถาบันต่างๆ ในภาคการเงินทั่วโลกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ดูแย่ที่สุด และจากปัญหาวิกฤตหนี้รัฐในยุโรปทำให้ภาระหนี้มากมายแฝงอยู่ในงบบัญชีบริษัทของกลุ่มการเงินเหล่านี้ “ยูนิเครดิตของอิตาลีมีแผนจะเลย์ออฟคนราว 6,100 ตำแหน่งภายในปี 2558 และต้นปีนี้ เอชเอสบีซี แบงก์ใหญ่ของอังกฤษประกาศแผนจะลดกำลังคน 25,000 คน และ เครดิต สวิส แจ้งแล้วว่าจะปลดคน 2,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ส่วนผู้บริหารบาร์เคลย์ให้ข้อมูลเป็นการคาดการณ์ว่า บริษัทจะตัดลดตำแหน่งงานประมาณ 2,800 ตำแหน่งในปีนี้ ด้าน ยูบีเอส มีแผนจะลดกำลังคน 10,000 คน” ฟอร์บส์ระบุ [code]ที่มา : bangkokbiznews http://bit.ly/V3ImJC [/code]

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

This field is required.

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ คืออะไร? ทำไมถึงกระทบไปทั่วโลก

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์” (U.S. Government Shutdown) ผ่านตามสื่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ในข่าวเศรษฐกิจที่ไทยเองก็ยังรายงานบ่อยๆ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจจริงๆ...

เอเชี่ยนพาราเกมส์ ทีมชาติไทยคว้าอันดับที่7 มาครอบครองได้ อย่างสมศักดิ์ศรี

เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 จัดการปิดการแข่งขันอย่างเรียบง่าย โดยใช้การแสดงที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมเป็นหลักขณะที่ทัพนักกีฬาไทยคว้า 27 เหรียญทอง จบอันดับ 7...

New Audi A4 Avant 45 TFSI Quattro S Line Black Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมจำหน่ายในไทยแล้ววันนี้

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการอัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในโลกแห่งยานยนต์ สำหรับครั้งนี้เราก็มีข่าวดีจะมาแจ้งให้เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบว่า  New Audi...

“Meta Ray-Ban Display” หลุดก่อนงาน Connect: แว่นตาแบบ HUD ที่ใส่แล้วเห็นแผนที่ ข้อความ และ Meta AI บนเลนส์

ถ้าใครกำลังรอของใหม่จาก Meta ปีนี้…มีสัญญาณแรง ๆ มาแล้วจ้า! มีวิดีโปรโมชัน “Meta Ray-Ban Display”...

สรุปครบทุกอย่างจากงานเปิดตัว iPhone 17: iPhone Air, iPhone 17 Pro, AirPods Pro 3 และอีกเพียบ

งานกันยายนปีนี้ Apple เปิดตัวของใหม่แน่นมาก ทั้งตระกูล iPhone 17 รุ่นใหม่หมด, สมาชิกหน้าใหม่ “iPhone...

Topics

รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ คืออะไร? ทำไมถึงกระทบไปทั่วโลก

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์” (U.S. Government Shutdown) ผ่านตามสื่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ในข่าวเศรษฐกิจที่ไทยเองก็ยังรายงานบ่อยๆ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจจริงๆ...

ดีล TikTok สไตล์ Trump: สัดส่วนนักลงทุนสหรัฐฯ ครองราว 80% เกมใหม่ของอัลกอริทึม–ดาต้า–คอนเทนต์

ดีลใหญ่ของ TikTok ในสหรัฐฯ กลายเป็น “หนังภาคต่อ” ที่ยืดเยื้อข้ามปี จนล่าสุดมีความคืบหน้าชัดเจนว่าโมเดลใหม่จะให้ “กลุ่มนักลงทุนสหรัฐฯ” เข้ามาถือควบคุมกิจการในสัดส่วน...

Related Articles

Popular Categories

spot_img