Epson ลุย"เครื่องแท็งก์แท้"ชนหมึกถูก

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

Epson,Continuous Ink Supply System ,Tank inkjet,เครื่องแท็งก์แท้ “เอปสัน” เปิดตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งก์ครั้งแรกของโลก ชูหมึกแท้-รับประกันเครื่อง ปูพรมตลาดสำนักงานขนาดเล็ก หลังพบพฤติกรรมผู้ซื้ออิงค์เจ็ทส่วนใหญ่นิยมติดแท็งก์เอง คาดโกยยอดขาย 3 หมื่นเครื่องปีแรก ดันยอดขายรวม 2,500 ล้านบาทปีนี้ นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวเครื่องพิมพ์ระบบหมึกสีต่อเนื่อง (Continuous Ink Supply System) หรือเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งก์อย่างเป็นทางการเป็นแบรนด์แรกของตลาด โดยนำร่องกับตลาดไทย อินโดนีเซีย และจีนเร็วๆ นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการพิมพ์งานจำนวนมาก โดยเฉพาะองค์กรขนาดกลาง-เล็ก และโฮม ออฟฟิศ ทั้งนี้บริษัทประเมินว่า ผู้ซื้อเครื่องอิงค์เจ็ททุกแบรนด์ในตลาดราว 50% จะนิยมนำเครื่องไปติดตั้งระบบหมึกแท็งก์ เพื่อประหยัดค่าหมึกพิมพ์ แต่ส่วนใหญ่จะพบปัญหาใช้งานเครื่องได้ไม่เกิน 3 เดือน และงานพิมพ์ไม่มีคุณภาพ เขาระบุว่า บริษัทได้เริ่มทดลองทำตลาดรุ่น “แอล ซีรีส์” มาแล้ว 6 เดือนพบว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่พึงพอใจ เนื่องจากบริษัทออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ และใช้หมึกแท้ พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี ราคาเริ่มต้น 5,290 บาท (รุ่นแอล 100) “เราไม่ได้มองว่าจะออกมาชนกับตลาดหมึกแท็งก์ที่ใช้กันอยู่ แต่เพื่อตอบโจทย์การใช้ให้ผู้บริโภคที่ต้องการหมึกราคาถูก และคนที่พิมพ์งานเยอะๆ ซึ่งเราลงตลาดมา 6 เดือนก็พบว่า 95% ของคนซื้อจะเคยใช้เครื่องติดแท็งก์แล้วมีปัญหา 3 เดือนก็ต้องทิ้ง แต่เครื่องแท็งก์ของเรารับประกันด้วย 1 ปี” นายยรรยงกล่าว พร้อมระบุว่า เครื่องพิมพ์แท็งก์ของเอปสันมีต้นทุนการพิมพ์ต่ำสุดราว 6.3 สตางค์ต่อแผ่น ซึ่งใกล้เคียงกับราคาตลาด และก็เชื่อว่าจะไม่กระทบกับแบรนด์ หรือตลาดเครื่องพิมพ์เดิมของบริษัท เนื่องจากเป็นการสร้างโอกาสในตลาดใหม่ และกระตุ้นให้ผู้ใช้หันมาใช้งานหมึกพิมพ์ของแท้มากขึ้น ส่วนการทำตลาดปีนี้จะยังคงเน้นสื่อออนไลน์เป็นหลัก และการทำค่ายฟุตบอลเยาวชน รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้งบราว 200 ล้านบาท หรือ 8% ของรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากทำตลาดร่วมกับแบรนด์แมนยูฯ รวมทั้งเพิ่มจำนวนคู่ค้าให้ครอบคลุมตลาดในภูมิภาคมากขึ้นจาก 150 รายเป็น 170 รายในพื้นที่ 70 จังหวัดทั่วประเทศ นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์ในปีนี้คาดว่าจะไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากตลาดมีดีมานด์คงที่ ซึ่งคาดว่าตลาดอิงค์เจ็ทรวมจะมีราว 1.2-1.3 ล้านเครื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายเครื่องแท็งก์ราว 3 หมื่นเครื่อง หรือราว 10% ของตลาดรวมเครื่องพิมพ์ทุกชนิดราว 1.7 ล้านเครื่อง ส่วนภาพรวมเอปสันในปีที่ผ่านมารายได้ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้เล็กน้อย หรือโต 5% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากปัญหาการเมืองและปัจจัยกระทบต่างๆ ในประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดสินค้าในกลุ่มองค์กรยังคงเติบโตแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบมาก และยังสามารถฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์ดอท เมตริกซ์ ซึ่งมียอดขายโตขึ้น 25%, เครื่องพิมพ์พาสบุ๊คในกลุ่มธนาคารโตขึ้นกว่า 100% และตลาดโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งล่าสุดก็ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 หรือ 28% ขณะที่ สถานการณ์ในญี่ปุ่นจะกระทบกับธุรกิจกลุ่มผลิตนาฬิกาเท่านั้น เนื่องจากต้องปิดโรงงาน 1 แห่งในโซนที่เกิดภัยพิบัติ ส่วนโรงงานกลุ่มเครื่องพิมพ์ไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้รวมเติบโต 15% หรือ 2,500 ล้านบาทจากเดิม 2,200 ล้านบาท

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This