Facebook รายได้พุ่ง 4,000 ล้านดอลล์!?

Must Read

Jiradech Suchada
Jiradech Suchadahttps://www.itmoamun.com/
การตลาดออนไลน์ เทคโนโลยี ธุรกิจ Passive Income ทำตัวเป็น Blogger แถมกด Shutter รัวๆ แล้วออกไปปั่นๆ พร้อมทั้งเก็บเป็นเรื่องราวดีๆผ่านพื้นที่ตรงนี้ออกมาเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ แบบเล่าสู่กันฟัง อย่าลืมมาติดตามกันนะครับ

ในเมื่อไม่เปิดเผย นักวิเคราะห์จึงพยายามประเมินรายได้เฟซบุ๊กกันเอง ล่าสุดบริษัทวิจัยตลาดออนไลน์ eMarketer เชื่อว่าเครือข่ายสังคมรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) สามารถทำรายได้รวมเกิน 4,270 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ (2011) เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบจากการประเมินในปี 2010 ที่พบว่ารายได้ของเฟซบุ๊กน่าจะอยู่ที่ 2,000 ล้านเหรียญ Facebook, รายได้ FacebookFacebook, รายได้ Facebook เฉพาะธุรกิจโฆษณาออนไลน์ Debra Aho Williamson หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์จาก eMarketer ระบุว่าเฟซบุ๊ก มีแนวโน้มโกยรายได้จากวงการโฆษณาทั่วโลกเกินหลัก 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นตัวเลขประเมินที่สูงกว่า 1,860 ล้านเหรียญในปี 2010 ถึง 104% ซึ่งชัดเจนว่าธุรกิจโฆษณาออนไลน์จะกลายเป็นรายได้หลักของเฟซบุ๊กไปอีกหลายปี นักวิเคราะห์ของ eMarketer เชื่อว่าธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของเฟซบุ๊กจะเติบโตต่อเนื่องเพราะคุณสมบัติใหม่ ที่เฟซบุ๊กจะพัฒนาขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการแสดงโฆษณาที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ต้องคลิกใดๆเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ความสามารถในการดึงดูดผู้ใช้ในวงกว้าง ก็ยิ่งทำให้เฟซบุ๊กมีแรงดึงดูดนักโฆษณามากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การศึกษาของ eMarketer พบว่าสัดส่วนธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของเฟซบุ๊กนั้นกำลังลดลงเมื่อเทียบกับเม็ด เงินรายได้รวมทั้งหมด สาเหตุคือการปรับรูปแบบการให้บริการของเฟซบุ๊กเอง โดย ในปี 2009 การประเมินพบว่าเฟซบุ๊กมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโฆษณาสูงถึง 95% (เมื่อเทียบจากรายได้รวมทั้งปี 2009) แต่สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือ 89% ในปีนี้ ที่น่าสนใจคือ สัดส่วนรายได้จากโฆษณาที่ลดลงไม่ได้แปลว่าภาพรวมธุรกิจของเฟซบุ๊กตกต่ำลง แต่เป็นเพราะบริการอื่นของเฟซบุ๊กสามารถทำรายได้มากขึ้น จุดนี้ eMarketer พบว่ารายได้จากบริการเติมเงินสำหรับใช้กับเกมและแอปพลิเคชันบนเฟซบุ๊กหรือ Facebook Credits นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีทีท่าว่าจะเป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญให้เฟซบุ๊กในอนาคต เฉพาะ Facebook Credits มีแนวโน้มว่าจะสามารถทำรายได้ให้เฟซบุ๊กมูลค่า 470 ล้านเหรียญในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนราว 11% ของรายได้รวม โดย 470 ล้านเหรียญนี้ขยายตัวก้าวกระโดดจาก 140 ล้านเหรียญในปี 2010 Credits หรือบริการเติมเงินของเฟซบุ๊กนั้นเป็นส่วนสำคัญของการให้บริการแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก โดยเฟซบุ๊กจะได้รับส่วนแบ่ง 30% จากการตัดสินใจซื้อสินค้าในแอปพลิเคชันหรือไอเท็มเกม (in-app transaction) ทุกครั้ง ลักษณะเดียวกับธุรกิจเกมสำหรับเครือข่ายสังคม Zynga ทั้งหมดนี้ eMarketer อธิบายว่าการประเมินรายได้บนเฟซบุ๊กนั้นใช้ข้อมูลจากบริษัทรวบรวมข้อมูลและ แหล่งวงใน สำหรับการประเมินเม็ดเงินในธุรกิจโฆษณาออนไลน์นั้นใช้ข้อมูลจากสถิติการใช้ งานของผู้ใช้เฟซบุ๊ก การใช้งานของนักโฆษณา ระบบอัตราโฆษณา และความประทับใจบนเฟซบุ๊ก ซึ่งยังไม่มีการยืนยันความถูกต้องจากปากผู้บริหารเฟซบุ๊กใดๆ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟซบุ๊กคือการเพิ่มความสามารถใน Facebook.com โดยปรับให้ระบบแสดงความเคลื่อนไหวใหม่หรือ News Feed สามารถ รองรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้เข้า Facebook นาน ให้สามารถติดตามประเด็นสำคัญได้โดยเลือก Top Story ที่ต้องการแบบเจาะจง นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ Ticker ที่สามารถแสดง ข้อมูลกิจกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อนได้แบบเรียลไทม์ โดยผู้ใช้สามารถแสดงความเห็นได้จากส่วน Ticker ชนิดไม่ต้องเปลี่ยนหน้าไปมา คาดว่ายักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมจะสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO ได้ภายในปีหน้า บนตัวเลขมูลค่าตลาดสูงถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ Company Related Link : Facebook

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisement -

Latest News

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก: ผลกระทบจาก Fed, ราคาน้ำมัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบกับการปรับตัวลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันพบกับความผันผวน โดยมีการเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อน และลดลงในวันที่ 8 เมษายน หลังการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง ทองคำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวในไต้หวันส่งผลกระทบจำกัดต่ออุตสาหกรรมผลิตชิป และตลาดหุ้นจีนได้รับประโยชน์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด เงินเฟ้อในยุโรปก็แสดงถึงการลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนมิถุนายน ด้านผู้จัดการกองทุนต่างคาดการณ์ว่าตลาดโดยรวมจะแกว่งตัวตามข้อมูลเงินเฟ้อและผลประกอบการของบริษัทในสหรัฐฯ ภาพรวมตลาดที่ผ่านมาแกว่งตัวในแนวข้าง...
- Advertisement -

More Articles Like This