บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเดินหน้ารุกตลาดภายใต้กลยุทธ์ GeoExpansion และแนวคิด “ศักราชใหม่ของเทคโนโลยี” (New Era of Technology) ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือทางการตลาดของไมโครซอฟท์ พร้อมตอบสนองทุกโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกับ 2 พันธมิตรของไมโครซอฟท์ จะเข้ามามีบทบาทในการดูแลการขาย การดำเนินกลยุทธ์การตลาด รวมทั้งสนับสนุนและให้คำปรึกษากับลูกค้าของไมโครซอฟท์ ที่อยู่ทั่วทุกภูมิภาค โดยบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะดูแลลูกค้าในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ในขณะที่ บริษัท อินแกรมไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด จะให้การดูแลลูกค้าในเขตภาคเหนือและภาคใต้ ปัจจุบัน ทั้งสองบริษัทมีจำนวนสาขาอยู่ 14 สาขาทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนมากกว่า 2,900 คน โดยทั้ง 5 ภูมิภาคจะมีผู้บริหารของไมโครซอฟท์ที่รับผิดชอบ และประสานงานโดยตรงกับสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ อย่างสม่ำเสมอ 5 คนใน 5 ภาค ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสงขลา ทั้งนี้ จากนี้ไปผู้บริโภค คู่ค้า องค์กร และพาร์ทเนอร์ ในประเทศไทย จะสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น และการสนับสนุนต่างๆ จากไมโครซอฟท์ได้สะดวก รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 (Windows 8) ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8 (Windows Phone 8) วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012 (Windows Server 2012) และวินโดวส์ อาซัวร์ (Windows Azure) พร้อมคำแนะนำ การสนับสนุน และการฝึกอบรมในพื้นที่นั้นๆ อย่างทั่วถึง นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ใหม่ GeoExpansion ว่า ด้วยประสบการณ์ ความชำนาญ และความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคในระดับท้องถิ่น ของบริษัทอินแกรมไมโครฯ และบริษัท ซินเน็คฯ จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยผลักดันให้ไมโครซอฟท์ นำเทคโนโลยีและโซลูชั่นอันเป็นประโยชน์เข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างใกล้ชิดและกว้างขวางยิ่งขึ้น การเกิดขึ้นของ Consumerization IT ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และ ไมโครซอฟท์มีความพร้อมอย่างเต็มที่ ที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้งานเทคโนโลยีที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ ภายใต้วิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ ‘We Make 70 Million Lives Better’ ของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เราได้มีการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในการขยายช่องทางในการเข้าถึง โซลูชั่น และผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพื่อให้เราสามารถดูแลลูกค้าของเราได้อย่างดีที่สุดไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของประเทศ กก.ผจก.บ.ไมโครซอฟท์ กล่าวต่อว่า ตัวอย่างของการเข้าถึงของเทคโนโลยีและโซลูชั่นของไมโครซอฟท์ ภายใต้กลยุทธ์ Geo Expansion คือ หากผู้ประกอบการที่อยู่ที่จังหวัดสกลนคร ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลูชั่นของไมโครซอฟท์ จะสามารถดำเนินธุรกิจตนผ่านการติดต่อกับตัวแทนในจังหวัดขอนแก่น ภายใต้การดูแลของบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ สถาบันทางการศึกษาในหาดใหญ่ หากมีความต้องการการติดตั้งซอฟต์แวร์ทางการศึกษาอย่าง ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 365 ก็สามารถติดต่อผ่านบริษัทอินแกรมไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว “การดำเนินกลยุทธ์ Geo Expansion ของไมโครซอฟท์ มีความสอดคล้องและสนับสนุนแผน สมาร์ทไอที (Smart IT) ของประเทศไทย เพื่อช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเป็นผู้นำในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2015 เมื่อ ไมโครซอฟท์ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในประเทศไทยได้มากขึ้น เราก็จะสามารถให้การสนับสนุนและฝึกอบรมลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นใหม่ ก็จะได้รับประโยชน์จาการเข้าถึงเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ในการเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างสะดวก โดยคาดว่าธุรกิจขนาดย่อมไม่ต่ำกว่า 40,000 ราย จาก 20,000 รายในเวลานี้ และรายได้จากลูกค้าภาคธุกิจจะโตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ขณะที่สัดส่วนรายได้ระหว่างลูกค้าใน กทม. เทียบกับ ตจว. จะเป็น 50-50% ในกลางปี 2013 จากเดิมที่ 70-30% ประโยชน์จากโมเดลธุรกิจนี้ทั้งหมดนี้ จะส่งผลดีต่อการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีท้องถิ่นของประเทศไทยโดยรวม” นายพีรธน กล่าว กก.ผจก.บ.ไมโครซอฟท์ กล่าวอีกว่า ไมโครซอฟท์ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ และเราต้องการประกาศให้ทุกคนทราบถึงความมุ่งมั่น อีกทั้งต้องการเห็นคู่ค้าของเราประสบความสำเร็จไปด้วยกันในศักราชใหม่ของเทคโนโลยีนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ที่น่าตื่นเต้น ที่มีอย่างครบครัน ทั้งที่ได้มีการเปิดตัวไปแล้ว และกำลังจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยีได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และไมโครซอฟท์พร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่น ที่ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้ทุกที่ และทุกเวลาที่ต้องการ ขณะนี้มาถึงยุคที่ 3 ของการใช้งานไอที ที่การใช้งานในองค์กรและผู้ใช้คอนซูมเมอร์ มีเส้นแบ่งที่บางจนแทบแยกไม่ออก เพราะเราสามารถทำงานและใช้งานได้ทุกอย่างบนหน้าจอเดียว ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะผู้บริหารขององค์กร หรือผู้ใช้งานทั่วไป ก็จะมีเพียงอุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียว ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทั้งซินเน็คและไมโครซอฟท์ เป็นพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันมาเป็นเวลายาวนาน ในการนำเสนอเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์สู่ผู้บริโภค จนประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก การประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเป็นทางการในวันนี้ เป็นการตอกย้ำความสำเร็จ และเจตนารมณ์ของทั้งสองบริษัท ที่ต้องการผนวกความแข็งแกร่งในด้านซอฟต์แวร์เทคโนโยโลยี และช่องการการจัดจำหน่ายให้เป็นอันหนึ่งเดียว เพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภคชาวไทย “ในปี 2555 เชื่อว่าการมาถึงของระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน 8 และวินโดวส์ 8 จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้วงการธุรกิจไอทีไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยมานาน ด้วยจุดเด่นที่เน้นความปลอดภัยบนอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต น่าจะทำให้เป็นปัจจัยบวก ที่ทำให้ธุรกจไอทีช่วงปลายปี 2555 กระเตื้องขึ้น หากมองในภาพรวมตลอดโน้ตบุ๊กไทยมีการเติบโตที่หดตัวลงไปจากเดิม การมาของวินโดวส์ 8 จะส่งผลดีทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณาเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จะหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ถ้าเกิดเอามาใช้แล้วดี ติดใจ มีการบอกต่อก็น่าจะเป็นกระแสที่ใช้ที่คนจะเปลี่ยนมาใช้งาน” ซีอีโอ บ.ซินเน็คฯ กล่าว ส่วนนายเคลเมนท์ มัค กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินแกรมไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริโภค เจ้าของธุรกิจขนาดย่อม พนักงานบริษัท สถาบันทางการศึกษา หรือหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้ความร่วมมือของ อินแกรมไมโคร และ ไมโครซอฟท์ คุณจะได้รับประโยชน์จากโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ขยายเพิ่มมากขึ้น ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระดับท้องถิ่น เรามีความมุ่งมั่นและมั่นใจเป็นอย่างมากในการดำเนินงานร่วมกับไมโครซอฟท์ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทางด้านไอทีที่ดีที่สุดให้กับชาวไทยทุกคน.